บทดอกสร้อยสุภาสิต เป็นถนิมประดับกรรณ ทุกเมื่อ

(1/8) > >>

ดาวิกา:



หนังสือพร้อมสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ชุด เป็นถนิมประดับกรรณ ทุกเมื่อ  
นำมาจาก หนังสือสอนอ่าน จินตกระวีนิพนธ์ สำหรับมูลศึกษา กรมศึกษาธิการ ดอกสร้อยสุภาสิต
ฉบับพิมพ์ครั้งแรก เมื่อรัตนโกสินทร์ศก ๑๒๑

เพื่อเผยแพร่ระหว่างวันศุกร์ ที่ ๒ - วันเสาร์ ที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๒
เนื่องในวาระบรรจบ ๑ ปี แห่งการสิ้นพระชนม์
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
และวันเด็กแห่งชาติ

คำปรารภ
(คัดมาบางส่วน จาก หนังสือ ดอกสร้อยสุภาสิต ชุด ใช้เป็นถนิมประดับกรรณ ทุกเมื่อ)

ปีพุทธศักราช ๒๕๕๒ นี้ นับเป็นปีมงคลของมหาวิทยาลัยขอนแก่น
โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาษาและวรรณกรรมไทย
กล่าวคือ นอกจากจะเป็นวาระครบปีที่ ๒๐ แห่งการก่อตั้งภาควิชาภาษาไทย
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
ซึ่งปัจจุบันปรับโครงสร้างการบริหารองค์กรเป็น หลักสูตรศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย
แล้วยังเป็นวโรกาสมหามงคลบรรจบ ๑๕ ปี ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ได้ขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย
ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาภาษาไทย
แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งยังได้รับพระราชทาน รางวัลพระเกี้ยวทองคำ
ในฐานะ สถาบันอุดมศึกษาที่สนับสนุนและเผยแพร่การใช้ภาษาไทยดีเด่น
จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในปีเดียวกัน
และที่สำคัญยิ่ง คือเป็นวาระครบ ๑๒ ปี
ที่มหาวิทยาลัยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต
ให้นำรายได้คงเหลือจากการแปรรูปบทพระราชนิพนธ์
เรื่อง พระมหาชนก เป็นบทละครสำหรับอ่านและบทละครสำหรับแสดง
เพื่อ ผลิตเป็นแผ่นซีดีเฉลิมพระเกียรตินั้นมาก่อตั้ง
เป็น กองทุนพระมหาชนก มหาวิทยาลัยขอนแก่น
สำหรับใช้ในกิจกรรมต่างๆ ของภาควิชาภาษาไทย




บทดอกสร้อยสุภาษิต ซึ่งใช้ขับร้องนี้
คือ บทดอกสร้อยสุภาษิต ฉบับแบบเรียนพิมพ์ครั้งแรก จำนวน ๓๔ บท
โดยมี นางมัณฑนา อยู่ยั่งยืน ข้าราชการบำนาญ กรมศิลปากร
เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ฝึกสอนและควบคุมการขับร้อง

ผู้ขับร้อง นายวโรตม์ นนตรี
นักศึกษาหลักสูตรศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ผู้เคยได้รับพระราชทาน รางวัลชนะเลิศ
การประกวดอ่านทำนองเสนาะ กรมศิลปากร เมื่อ พุทธศักราช ๒๕๕๐

บทดอกสร้อยสุภาษิตและบทขับร้องนี้
นำมาให้อ่านและฟัง เพียงเพื่อ ศึกษาและฟังเป็นความรู้
ถึงการขับร้องทำนองเสนาะ ในทำนองต่างๆ อันเป็นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมไทย
ที่มีมาแต่ก่อนกาลเท่านั้น

ขอขอบคุณ คณะผู้จัดทำหนังสือพร้อมสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน
ที่นำบทดอกสร้อยสุภาษิตนี้ มาเผยแพร่และอนุรักษ์ไว้ ให้อนุชนรุ่นหลังได้อ่านได้ฟัง
เพื่อสืบทอดและสืบสานวัฒนธรรมอันดีงามของไทย ให้คงไว้ มา ณ โอกาสนี้ด้วย


ดาวิกา:



http://saisampan.net/davika/data/flash/lsp0bq-16e136.swf

หมายเหตุ คัดตาม หนังสือสอนอ่าน จินตกระวีนิพนธ์
สำหรับมูลศึกษา กรมศึกษาธิการ ดอกสร้อยสุภาสิต
ฉบับพิมพ์ครั้งแรก เมื่อรัตนโกสินทร์ศก ๑๒๑

nongna:
ดีจังค่ะน้องดาวิกา ที่นำบทดอกสร้อยมาให้อ่านค่ะ นีกถึงตอนเด็กป.1 นะคะ สมัยเด็ก ๆ ก็เริ่มหัดอ่านเขียน ได้ท่องบทดอกสร้อยนี่ล่ะ เสียดายหนังสือเก่าหายหมดแล้ว เพราะเวลาผ่านไปนานมากค่่ะ ขอบคุณมากนะคะ ชอบจังเลยค่ะ :sorriso2:

ดาวิกา:
บทที่ ๒
แมวเหมียวแยกเขี้ยวยิงฟัน

แมวเอ๋ยแมวเหมียว รูปร่างประเปรียวเปนนักหนา
ร้องเรียกเหมียว ๆ เดี๋ยวก็มา  เคล้าแข้งเคล้าขาน่าเอ็นดู
รู้จักเอารักเข้าต่อตั้ง  ค่ำ ๆ ซ้ำนั่งระวังหนู
ควรนับว่ามันกตัญญู  พอดูอย่างไว้ ใส่ใจเอย

นายทัดเปรียญแต่ง  ร้องลำต้นบรเทศ

บทนี้ สอนให้รู้จักและมีความกตัญญู
แสดงความคิดเห็นหน่อยค่ะ
คลิกที่นี่เพื่อรับฟังค่ะ

ดาวิกา:

บทที่ ๓
ตั้งไข่ล้มต้มไข่กิน

ตั้งเอ๋ยตั้งไข่ จะตั้งไยไข่กลมก็ล้มสิ้น
ถึงว่าไข่ล้มจะต้มกิน ถ้าตกดินเสียก็อดหมดฝีมือ
ตั้งใจเรานี้จะดีกว่า อุส่าห์อ่านเขียนเรียนหนังสือ
ทั้งวิชาสาระพัดเพียรหัดปรือ อย่าดึงดื้อตั้งไข่ร่ำไรเอย

พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงดำรงราชานุภาพ ทรงนิพนธ์
 ร้องลำลมพัดชายเขา

บทนี้ สอนว่า อย่าเสียเวลาร่ำไร กับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง
แสดงความคิดเห็นหน่อยค่ะ
คลิกที่นี่เพื่อรับฟังค่ะ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป






Saisampan.net
สายสัมพันธ์ - เพลงลูกทุ่งเก่า (เก่ากว่าที่ท่านคิด)