ประวัติ
ชัย ชนะ บุญนะโชติ เกิดเมื่อ 5 ม.ค. 2485 ที่บ้านเลขที่ 9 ต.บางเล่า อ.บางคล้า จ. ฉะเชิงเทรา เป็นบุตรคนที่ 5 ของนายบุญชู และนางแฉ่ง บุญนะโชติ มีพี่น้อง 9 คน เข้ารับการศึกษาเบื้องต้นที่โรงเรียนประชาบาลวัดสามร่ม จนจบประถมปีที่ 4 แล้วไม่ได้ศึกษาต่อเนื่องจากพ่อแม่เป็นคนยากจน ต้องรับจ้างทำสวนหมาก สวนมะม่วง จึงอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง ตอนแรกอาศัยอยู่กับญาติๆที่ จ.ปราจีนบุรี จากนั้นย้ายมาอยู่กับน้าชายซึ่งเป็นหัวหน้าคณะลิเกอยู่ อ.บ้านสร้าง แล้วกลับมาอยู่ที่บ้านเกิด จ.ฉะเชิงเทรา
ชัย ชนะชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก ยามว่างเขาจะร้องเพลงอยู่เสมอๆ และบังเอิญในช่วงนั้นมีครูคนหนึ่ง ชอบฟังเพลงจึงได้ชัยชนะร้องให้ฟังอยู่เป็นประจำ ชัยชนะมีความชื่นชอบในเพลงของสมยศ ทัศนพันธ์อย่าง มาก หลังจากที่พบว่าพอมีพรสวรรค์ในด้านนี้อยู่บ้าง เขา กับน้องชายคือชัยณรงค์ บุญนะโชติ ก็ไปรับจ้าง ร้องเพลงตามงานเล็กๆใกล้บ้านในบางครั้ง
เพราะ ความยากจน เพื่อจะได้อาศัยเรียนหนังสือ ชีวิตวัยเด็กของชัยชนะจึงต้องไปเป็นลูกศิษย์วัด เมื่อเรียนจบ ป.4 แล้วไม่มีเงินเรียนต่อ ต่อมานายวิเชียร ตัณยะสิทธิ์ ซึ่งทำงานอยู่ที่บริษัท ส.สำราญไทยแลนด์ ที่ทำมีดช้อนลงหิน ที่กรุงเทพฯ ได้มาบวชที่วัดนั้น ชัยชนะจึงเป็นลูกศิษย์ของหลวงพี่วิเชียร
เมื่อ หลวงพี่วิเชียรสึกจากพระได้ชวนชัยชนะ ซึ่งตอนนั้นอายุ 14 ปี ให้ไปทำงานที่ บริษัท ส.สำราญไทยแลนด์ ที่ซอยกิ่งเพชร เขาทำอยู่ได้ 2 ปี ก็กลับบ้านที่ จ.ฉะเชิงเทรา และหันมาทำงานเป็นเด็กรถ ในยามว่าง เขากับชัยณรงค์ น้องชาย ก็อาศัยบริเวณท้ายรถโดยสารเป็น เวทีการแสดงการร้องเพลงของเขา โดยเก็บเงินจากบรรดาเด็กรถด้วยกันสำหรับการเข้าชม ชีวิตช่วงนี้เองที่ทำให้ ชัยชนะ เริ่มก้าวเข้าสู่วงการนักร้องอย่างเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น เมื่อเขาเริ่มเป็นนักร้องสมัครเล่นตามงานบวช งานแต่งงาน ซึ่งก็มีคนที่ชื่นชอบ และมอบเงินให้เป็นของขวัญ
เมื่อ ครั้งมีงานประจำปีวัดหลวงพ่อพุทธโสธร ชัยชนะได้ขอไปร้องเพลงที่ร้านเกษตร ซึ่งมาออกร้านขายอาหาร ที่นี่ชัยชนะเป็นนักร้องที่ผู้คนชื่นชอบเป็นอย่างมาก ขณะที่ชัยชนะร้องเพลงอยู่นั้น นายบุญยง สาคลียะ ซึ่งมีวงดนตรี "ลูกตะวันออก" ได้มาเปิดร้านขายอาหารและแสดงดนตรีอยู่ด้วย ได้มายืนฟังชัยชนะร้องเพลงในแนวของคำรณ สัมปุณณานนท์ เห็นว่า ชัยชนะเป็นนักร้องเสียงดี จึงชวนไปร้องเพลงกับตนในช่วงที่มีงาน โดยออกตระเวนแสดงดนตรีในภาคตะวันออก จนมีชื่อเสียงในชื่อ คำรณน้อย ทำให้ชัยชนะเริ่มหันมาชอบเพลงในแนวของคำรณอีกคน
บันทึกเสียง
ครั้งหนึ่ง วงดนตรีตะวันออก เข้าประกวดที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ชัยชนะขับร้องเพลงชีวิตชาวนาของคำรณ นายเตียง โอศิริ ผู้จัดการฝ่ายแผ่นเสียงของบริษัทกมลสุโกศลได้ชมรายการนั้นอยู่ด้วย และเมื่อพยงค์ มุกดาได้แต่งเพลง " ของเขาไม่เอา ของเราไม่ให้ " ที่พูดถึงกรณีพิพาทเรื่องเขาพระวิหารไปเสนอขาย นายเตียง จึงให้คนไปตามหาตัวชัยชนะมาบันทึกแผ่นเสียง งานนี้ ครูพยงค์ ได้แต่งเพลงให้ชัยชนะอีกเพลงชื่อ " ทีนเอจรำลึก " ชัยชนะจึงมีโอกาสได้บันทึกแผ่นเสียงครั้งแรกเมื่ออายุ 16 ปี และ 2 เพลงนี้ทำให้เขาพอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง จากนั้น ชัยชนะ ก็ออกเดินสายไปกับวงของครูพยงค์ มุกดา ครั้นพออายุ 18 ปี ก็แอบหนีครูพยงค์ ไปบันทึกเสียงให้กับ พิพัทธ์ บริบูรณ์ รวม 14 เพลง และได้ค่าเหนื่อยเป็นทองคำ 20 บาท งานนี้เขาได้อัดเพลงบางกอกน้อย ที่นักร้องดังหลายคน อย่างทูล ทองใจ , ชรินทร์ นันทนาคร และนริศ อารีย์ ปฏิเสธที่จะร้องเพราะความยาก แต่เพลงนี่ก็ทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังในทันที และจากนั้นผลงานเพลงของชัยชนะ ก็เป็นที่ชื่นชอบของประชาชนมาอย่างยาวนาน
ผลงานเพลงดัง
* สามปีที่ไร้นาง
* ของเขาไม่เอา ของเราไม่ให้
* บางกอกน้อย
* แตงร่มใบ
* นาล่ม
* หนุ่มสุพรรณ
* ล่องใต้
* กระท่อมปลายนา
* ใจนางเหมือนทางรถ
* บางแค
* บางกอกกรุงเก่า
* ดอกดินถวิลฟั
* แฟนคนสวน
* อดีตรักเดือนสิบสอง
นักแต่งเพลง
นอกจากจะเป็นนักร้องแล้ว ชัยชนะ ยังมีความสามารถในการประพันธ์เพลงด้วย ซึ่งหลายเพลง ก็เป็นที่นิยม เช่น
* สามปีที่ไร้นาง (ไวพจน์ เพชรสุพรรณ - ก้าน แก้วสุพรรณ)
* สิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ (ยงยุทธ เชี่ยวชาญชัย)
* แม่ช่อพยอม (ก้าน แก้วสุพรรณ)
* ทุ่งร้างนางลืม (ชินกร ไกรลาศ)
* มาลัยจากนักเพลง (รุ่งเพชร แหลมสิงห์)
* หลงจันทร์ (ชัยณรงค์ บุญนะโชติ)
* เมื่อฉันขาดเธอ (เพชร พนมรุ้ง)
* มาลัยรักจากมิตรเพลง (รุ่ง โพธาราม)
ปั้นนักร้อง
ชัย ชนะ บุญนะโชติ เป็นนักร้องที่สร้างลูกศิษย์ในวงการนักร้องลูกทุ่งที่มีชื่อเสียงไว้หลายคน อาทิ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ,เดือนเพ็ญ ณ สามพราน, ชัยณรงค์ บุญนะโชติ, เยี่ยม โยธะกา, แดน ดอนเจดีย์
เขายังมีความสามารถในการแหล่ทำขวัญนาคแสดงลิเก เพลงฉ่อย ละครเพลง ลำตัด เพลงอีแซวเป็นต้น
เกียรติยศ
* รับพระราชทานเข็มเกียรติคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
* รับพระราชทานเหรียญ ภ.ป.ร.ในงานสังคีตมงคล
* รับรางวัลโล่พระราชทาน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ในงานกึ่งศตวรรษลูกทุ่งไทย ครั้งที่ 1 จากเพลงแตงร่มใบ ครั้งที่ 2 จากเพลงชายสามโบสถ์
* รับประกาศเกียรติคุณกึ่งศตวรรษลูกทุ่งสืบสานวัฒนธรรม จากเพลง บ้ากัญชา
* ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงลูกทุ่ง) ประจำปีพุทธศักราช 2541
ที่มา.ชมรมอนุรักษณ์เพลงลูกทุ่งไทย