ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ธันวาคม 23, 2024, 07:36:02 am
หน้าแรก
•
ช่วยเหลือ
•
ค้นหา
•
เข้าสู่ระบบ
•
สมัครสมาชิก
สถานีวิทยุออนไลน์
สายสัมพันธ์
ท่านสามารถขอเพลงฟังได้
ที่กล่องขอเพลงด้านซ้ายมือ
แต่อาจไม่ได้รับฟังทุกเพลง
เนื่องจากจะรองรับเพลงตามขอ
ของสมาชิกภายในก่อน
สายสัมพันธ์
>
ห้องทั่วไป
>
เรื่อง/ภาพ ทั่วไป
(ผู้ดูแล:
ดาวิกา
) >
ทรงผมหญิงไทย
หน้า: [
1
]
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
ผู้เขียน
หัวข้อ: ทรงผมหญิงไทย (อ่าน 4889 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
nongna
ปลดออกจากสมาชิก
คำขอบคุณ: 1731
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 589
สมาชิก ID: 1301
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Level 19 : Exp 68%
HP: 0%
สวัสดีค่ะ
ทรงผมหญิงไทย
«
เมื่อ:
มกราคม 23, 2011, 09:28:49 pm »
ทรงผมหญิงไทย
ทรงผมกับมนุษย์เป็นของคู่กัน แต่ใครจะประดิษฐ์คิดออกแบบทรงไหนแล้วดูดีสมฐานะนั้น ขึ้นอยู่กับเหตุผลของแต่ละคนไป แต่สาวไทยใจถึงยุคนี้ก็ยังจะไว้ผมทรงเดียวกับดารา แม้จะรู้ว่าไม่รับกับใบหน้าหรือบุคลิกภาพของตนก็ตาม ไปเข้าตำราไม่ให้ แต่ใจรักซะอย่าง แม่เม้าเองถ้าไม่ติดขัดด้านทุนทรัพย์ จะไปลบรอยตีนกา แถมร่ำๆ จะทำผมทรงแม่นัท มีเรียกะเค้าเหมือนกันแหละ
สมัยก่อนไม่มีมูส เจล โฟม หรือแม้แต่สเปรย์ ก็ได้แต่อาศัยจับเขม่าใส่น้ำมัน กันหน้า เก็บไร ตามมีตามเกิด แต่น่ายกย่องน้ำใจหญิงไทยตรงที่เธอมีเหตุผลของการไว้ผมทรงต่างๆ ที่ดูเข้าท่า น่าสรรเสริญ ซึ่งเป็นเหตุผลของการใช้สอยส่วนตัวแล้ว ทรงผมที่แปลกปลี่ยนไปแต่ละยุค ก็ด้วยเหตุของการต้องปลอมตัวเป็นบุรุษ เพื่อป้องกันประเทศชาติในยามศึกสงคราม หญิงไทยก็ตัดผมสั้นทะมัดทะแมงอาจใช้ปลอมตัวเพื่อหนีภัยสงคราม หรือแม้แต่ยามสงบ พักรบเพื่อพบรักก็แล้วแต่ สตรีไทยไม่เคยเสียดายความงามที่ถูกหายไปกับเส้นผมที่ถูกตัด แต่ยังคงความงามที่เรียกกันว่างามอย่างมีคุณภาพได้ประโยชน์ และสนองคุณแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนครบถ้วน น่าชมเชยน้ำใจยิ่งนัก
เราลองมาลำดับความเป็นไปของเส้นทางบนถนนแฟชั่นทรงผมชองสาวไทยดูว่ามีการพัฒนากันอย่างไรบ้าง สันนิษฐานว่า หญิงไทยน่าจะไว้ผมเกล้าขึ้นสูงมาตั้งแต่แรกเริ่มเป็นชาติไทย ไม่ได้เลียนแบบมาจากพราหมณ์อย่างที่เข้าใจกันแต่ประการใด เพราะชาวเอเชียแถบตะวันออก มักเกล้าผมทรงสูงเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว ไม่ว่าจีน หรือญี่ปุ่น ก็นิยมเกล้าผมเช่นกัน
สตรีไทยสมัยไทยมุง กับสมัยทวาราวดี จึงเกล้ามวยเป็นจอมสูงขึ้นไปเหนือศีรษะ แล้วรัดกลางให้ตอนบนสยายออก เป็นพุ่มด้วยเครื่องประดับให้สวยงาม บางครั้งก็ถักเปียระสองข้างแก้ม จัดเรียงเป็นเปียเส้นเล็กๆลงมาให้เป็นกระรอบวงหน้า
สาวชาวศรีวิชัย ก็เกล้าผมมวยสูงเช่นกัน โดยทำเป็นรูปข้าวบิณฑ์ สวมกลีบรวบด้วยรัดเกล้า ปล่อยชายผมปรกลงมาด้านหลัง บางครั้งมุ่นเป็นมวยทรงกลมเหนือศีรษะ ใช้รัดเกล้าเป็นชั้น ปล่อยปลายผมประบ่า ๒ ข้าง มีการถักเปียบ้างเหมือนกัน
สตรียุคอาณาจักร อ้ายลาว ต้องบุกป่าฝ่าดง จำเป็นต้องแต่งกายให้กระชับรับกับสถานการณ์ ผมจึงมุ่นขึ้นสูงเหมือนสมัยน่านเจ้า
ครั้นสมัยลพบุรี หญิงสาวหวีผมแสกกลาง ตอนบนมุ่นป็นมวยแล้วประดับด้วยการปักปิ่นยอด
สตรีสมัยเชียงแสน แม้จะไว้ผมมวย แต่จะเกล้า ให้ค่อนไปข้างหลังศีรษะเล็กน้อย ที่ขาดไม่ได้คือ รัดมวยผมด้วยเครื่องประดับรอบมวยผม
สาวไทยเริ่มนิยมผมแสก ปล่อยผมให้ประบ่าในยุคสุโขทัยนี่เอง แต่ก็ยังไม่ทิ้งผมเกล้าสูงเสียทีเดียว อาจจะเป็นเพราะเหตุที่ว่า บ้านเมืองยุคนี้สงบสุข ไพร่ฟ้าหน้าใส เพราะ “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” สตรีไทยส่วนใหญ่จึงไม่ต้องตกอยู่ในสภาวะ “มือก็ไกวดาบก็แกว่ง” ก็เลยมีเวลามากพอที่จะดูแล บำรุงส้นผมได้ตามถนัดกว่ายุคอื่น ๆ
เมื่อถึงอยุธยาแรกเริ่ม หญิงไทยที่แต่งตัวตามกฎมนเทียรบาล กำหนด จะเป็นลักษณะ “เมียนา ๑๐,๐๐๐ หัวเมืองทั้ง ๔ เมื่องานใส่เศียรเพชรมวย นุ่งแพร เมียจตุสดมภ์ เกล้าหนูนยิก เกี้ยวแซม เสื้อนุ่งแพร”ซึ่งเป็นการแต่งตัวของข้าราชการผู้ใหญ่ และพวกผู้ดีมีสกุล
ช่วงอยุธยาตอนกลาง มีการรบกับพม่า สตรียังคงไว้ผมสูงที่เรียกกันว่า ผมทรงกระโดง เป็นการรวบผมขึ้นไปเกล้าไว้บนขม่อม เป็นห่วงยาว ๆ มีเกี้ยวหรือพวงมาลัยสวมทับ เป็นการแต่งตัวตามที่กำหนดไว้ในกฎมนเทียรบาลเหมือนอยุธยาตอนต้น ซึ่งมีหลักฐานปรากฏในพระราชพิธีสิบสองเดือน ในพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจุลเจ้าเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วย เมื่อรบกับพม่าบ่อยขึ้นจึงมีการตัดเกรียนมหาดไทย
จนถึงยุคอยุธยาตอนปลาย คนต้องรบพุ่งกับศัตรูแผ่นดิน ทั้งชายหญิง จึงต้องตัดผมสั้นเกรียนเหมือน ๆ กัน เพื่อปลอมตัวเป็นชาย และเพื่อหนีภัยสงครามได้สะดวกปลอดภัย
สตรียุครัตนโกสินทร์ ผมยังตัดไว้เชิงสั้นอยู่ เป็นชั้นๆ ปล่อยปลายผมประบ่า ๒ ข้าง เป็นการแต่งตัวตามที่กำหนดไว้ตามกฎมนเทียรบาลชายจึงตัดผมสั้นเกรียนบางครั้งอาจทัดดอกไม้ข้างหู เรียกว่า “จอนหู”สตรียุครัตนโกสินทร์บางคนไว้ผมยาวเฉพาะกลางศีรษะคล้ายผมมหาดไทยของชาย
ในรัชกาลที่ ๔ ทรงไว้ผมแบบสมัยใหม่แบบฝรั่งตะวันตกจนถึงรัชกาลที่ ๕ พระประยูรวงศ์เมื่อครั้งยังเป็นเจ้าจอมมารดาแพร เป็นผู้นำในการไว้ผมยาวเป็นคนแรกจนแพร่หลายมาสู่ประชาชน
สมัยรัชกาลที่ ๖ จะไว้ผมโป่ง แบบญี่ปุ่นคือรวบข้างหลังไว้ที่ต้นคอ แล้วปล่อยยาวข้างหลัง แล้วกลายมาเป็นผมยาวดัดเป็นลอนในสมัยรัชกาลที่ ๗
ทรงผมไทยในยุคปัจจุบัน ได้รับอิทธพลจากแฟชั่นด้วยเหตุที่การสื่อสารก้าวหน้ามากขึ้นก่อให้เกิดทรงผมต่างๆ มากมาย เช่น ผมบ๊อบ หน้าม้า ตัดเป็นคลื่น ข้างหลังยาวแค่คอ ตวัดปลายผมมาไว้ข้างแก้มทั้งสอง อีกแบบคือตัดให้เตียนถึงหู เหลือไว้เล็กน้อยด้านหลังไถขึ้นไปถึงท้ายทอย นอกนั้นก็มีทรงทวิกกี้ รากไทร แอร์ไร ตัดลอน ตัดหยิกทั้งหัว ทรงสวอนที่ปลายผมตวัดงอนออก หรือทรงม้อดที่ปลายผมงองุ้มเข้า
ปัจจุบัน ทรงผมมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกตามความพอใจ ขณะนี้กำลังนิยมการทำผมให้เป็นสีต่าง ๆ ดูแปลกตา น่าตื่นใจดีไม่ใช่เล่น เมื่อไรแฟชั่นนี้จะเลิกราเสียที บ้านไหนบ้านนั้น ที่เปิดศึกวิวาทกัน ระหว่างพ่อแม่กับลูกวัยกระเตาะ ก็เรื่องผมนี่แหละ เชื่อแม่เม้าเถอะ เฮ้อ ! คิดแล้วเหนื่อยแทน
กระต่าย
, ,
สะบันงา
,
สมาชิกใหม่ทุกท่าน >>> กดที่นี่
ท่านเป็นเช่นนี้หรือไม่ ? 1 login ... เข้าเวป 2 หาเพลงโหลด 3 มีให้โหลด ตอบเพื่อโหลด ไม่มีให้โหลด ไปข้อ4 4 logout ... ไปดีกว่า
อา-ราย-หว่า ???
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 23, 2011, 09:29:08 pm โดย NONGNA
»
บันทึกการเข้า
สวัสดีค่ะคุณผู้เยี่ยมชมยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
สะบันงา
มีสูง..มีต่ำ..เรื่องธรรมดา..
ปลดออกจากสมาชิก
คำขอบคุณ: 2740
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 884
สมาชิก ID: 1734
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Level 24 : Exp 14%
HP: 0%
บนเวทีละครชีวิต ไม่มีใครได้รับแจกบทการแสดงล่วงหน้า
Re: ทรงผมหญิงไทย
«
ตอบ #1 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 07, 2011, 05:23:21 pm »
ขอบคุณที่นำมาให้อ่าน :sorriso2:แต่แหม..ถ้ามีภาพด้วยก็คงจะดีนะคะ
สมาชิกใหม่ทุกท่าน >>> กดที่นี่
ท่านเป็นเช่นนี้หรือไม่ ? 1 login ... เข้าเวป 2 หาเพลงโหลด 3 มีให้โหลด ตอบเพื่อโหลด ไม่มีให้โหลด ไปข้อ4 4 logout ... ไปดีกว่า
อา-ราย-หว่า ???
บันทึกการเข้า
.. ทุกชีวิตดิ้นรนค้นหาแต่จุดหมาย ....
"ใจ"
ในร่างกายกลับไม่เจอ ..
ทุกข์ที่เกิดซ้ำเพราะใจนำพร่ำเพ้อ .. หา
"หัวใจ"
ให้เจอก็เป็นสุข
หน้า: [
1
]
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
ห้องฟังเพลง
-----------------------------
=> ห้องฟังเพลง
===> ฟังเพลงจากแผ่นครั่ง
===> ฟังเพลงเก่า(ลูกกรุง)
===> ฟังเพลงเก่า(ลูกทุ่ง)
===> ฟังเพลงเก่า(ลูกทุ่ง+ลูกกรุง)
===> ฟังเพลงลูกทุ่งลูกกรุงใหม่ๆ หรือเก่าดนตรีใหม่
===> ฟังเพลงนานาชาติ (เก่ามาก - ปี 1960)
===> ฟังเพลงนานาชาติ (ปี 1961-1990)
===> ฟังเพลงนานาชาติ (ปี 1991-ปัจจุบัน)
===> ฟังเพลงบรรเลง
===> ฟังเพลงเพื่อชีวิต
===> ฟังเพลงไทยสากล(สตริง)
===> ฟังเพลงพื้นบ้าน
===> MV
===> ฟังเพลงจากสมาชิกขับร้อง
=====> preem
=====> หมื่นกระบี่ไร้พ่าย
=====> lakkana
=====> J.R.
=====> ดาวิกา
=====> nirutboon
=====> เมธา
=====> ป๋องศักดิ์
=====> petcharat
=====> sonka
=====> ป้าเขียว
-----------------------------
ห้องทั่วไป
-----------------------------
=> แวดวงบันเทิง
=> เรื่อง/ภาพ ทั่วไป
=> เรื่องเล่า/ภาพ ขำขำ
=> เรื่องเล่าอื่นๆ
=> เรื่องของศิลปะ/ภาพจิตรกรรม/ประติมากรรม
-----------------------------
ห้องธรรมะ
-----------------------------
=> ธรรมะและพระสูตร
=> นิทานบันเทิงธรรม
-----------------------------
Health Advice (สุขภาพ)
-----------------------------
=> พลานามัย
=> รักษาตัวให้ห่างจากโรคร้าย
=> โภชนาการ
-----------------------------
บันทึกประวัติศาสตร์
-----------------------------
=> ถาม-ตอบ เรื่องชื่อเพลง+ชื่อนักร้อง
===> ชื่อเพลง+ชื่อนักร้อง ได้รับคำตอบแล้ว
=> เรื่องของบทเพลง (ไทย)
=> เรื่องของบทเพลง (เพลงไทยเดิม)
=> เรื่องของบทเพลง (สากล)
=> ผลงานเพลงของนักร้องแต่ละท่าน
=> ประวัติของนักร้องลูกทุ่ง-ลูกกรุง
=> ประวัติของนักร้อง ศิลปินสากล
=> ประวัติของนักแต่งเพลง และ นักปั้นมือทอง
=> รูปภาพนักร้อง+นักแต่งเพลง+นักแสดง
=> ภาพปกแผ่นเสียง
-----------------------------
คอมพิวเตอร์
-----------------------------
=> ถาม-ตอบ ปัญหาคอม
=> เทคนิคและเครื่องเสียง
-----------------------------
เว็บไซด์เพื่อนบ้าน
-----------------------------
=> เว็บไซด์เพื่อนบ้าน
Your browser does not support iframes.
Saisampan.net
สายสัมพันธ์ - เพลงลูกทุ่งเก่า (เก่ากว่าที่ท่านคิด)
กำลังโหลด...