#แนวเพลงที่เปลี่ยนไปของ "รุ่งเพชร แหลมสิงห์" และเบื้องหลัง "กระทงหลงทาง"

[Nobunaga]

ไปอ่านเจอในกระทู้นึงที่กล่าวถึงว่าเพลงสาวชาวหอของ รุ่งเพชร แหลมสิงห์ ว่าเปลี่ยนไปจากเดิม เลยเอาข้อมูลที่เคยนำเสนอไว้ในบ้าน "เม็ดทราย" มาให้อ่านกันครับ

เพราะ รุ่งเพชร แหลมสิงห์ ไม่ยอมไปแสดงภาพยนตร์ตามที่ ครูไพบูลย์ ได้เคยเอ่ยรับปากไปกับผู้สร้าง เพราะคิดว่ายังไงซะ รุ่งเพชร ก็คงไม่ปฏิเสธแน่

แต่ครูไพบูลย์ก็ต้องน้ำตาตก เพราะได้รับการปฏิเสธจากรุ่งเพชร

สาเหตุเพราะหลังจากฝนเดือนหกดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง รุ่งเพชร แหลมสิงห์ ก็ไปบวช 7 วัน ช่วงที่บวช รุ่งทิพย์ ธารทอง ผู้จัดการวง ได้รับคิวงานเดินสาย บ่าย-ค่ำๆ เต็มตลอดล่วงหน้าถึงสองปี

แต่ครูไพบูลย์ได้ไปตกลงรับปากกับ รังสี ทัศนพยัคฆ์ ว่าจะไห้รุ่งเพชรไปแสดงหนัง แต่กลับไปเล่นหนังไม่ได้ เพราะคิวเดินสายเต็ม แม้จะเอาบุ๊คการแสดงไปให้ครูดู ครูก้ยังโกรธรุ่งเพชร

และด้วยเหตุนี้เพลงที่ครูไพบูลย์เตรียมไว้ให้รุ่งเพชรร้อง จึงถูกถ่ายโอนไปให้กับศรีคีรี และก็สร้างชื่อเสียงให้กับเขาเป็นอย่างยิ่ง

หากตอนนั้นรุ่งเพชรรับปากครูไป เขาคงจะยังดังไปอีกนาน เพราะแต่ละเพลงที่ครูมอบให้กับศรคีรีล้วนมีคุณค่าทั้งนั้น

ภายหลังจากเหตุการณ์นั้น ความโด่งดังของศรคีรี ก็กลบชื่อเสียงของ รุ่งเพชร ไปเสียสิ้น

จนกระทั่งวันนึงได้มีเด็กหนุ่มคนนึง ท่าทางซื่อๆ ขี้อายได้มาปรากฏตัวหลังเวทีการแสดงของรุ่งเพชร ซึ่งไปแสดงในงานของ ชมรมวิทยุอุบลฯ ซึ่งจัด ณ ทุ่งศรีเมือง จ. อุบลราชธานี

ในงานวันนั้น นอกจากรุ่งเพชร แหลมสิงห์ แล้วก็มี ชาย เมืองสิงห์, คัมภีร์ แสงทอง ฯลฯ

เด็กหนุ่มคนนี้ซึ่งมาจากบ้านนาหมอม้า ลุยฝ่าฝูงชนเข้าไปหลังเวที พร้อมกับส่ายตาที่สอดส่ายมองหานักร้องดังที่กำลังพักผ่อนอยู่หลังเวที ในมือของเขาถือกระดาษที่เต็มไปด้วยเนื้องเพลงรวม 10 เพลงด้วยกัน

ครั้นพอสายตาเหลือบไปเห็นศิลปินที่เขาชื่นชอบก็เดินรี่เข้าไปหาในทันที เพราะรู้ดีว่าคงไม่มีเวลาให้เขาได้พูดคุยได้มากนัก แม้ในตอนนั้นจะรู้สึกตื่นเต้นก็ตาม

"งั้นเดี๋ยวพี่จะรับไว้พิจารณานะ เก่งเหมือนกันนี่เรา แต่งเพลงได้ซะด้วย" ชายวัยกลางคนผิวคล้ำเอ่ยปากชม

"แต่น้องให้พี่ดูเนื้อเพลงอย่างเดียวคงไม่ได้หรอกนะ ต้องใส่ทำนองมาด้วยสิ"

"อืม..เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวพี่จะให้ที่อยู่ไว้ น้องก็อัดเพลงพวกนี้ลงเทปส่งไปให้พี่ฟังอีกครั้งจะดีกว่า" น้องร้องดังเอ่ยปากแนะนำ

เด็กหนุ่มที่ในตอนนั้นปากคอสั่นด้วยความตื่นเต้นรับปากรับคำด้วยความเต็มใจ

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบปะพูดคุยกับนักร้องดังระดับประเทศนาม รุ่งเพชร แหลมสิงห์

ในตอนนั้น เด็กหนุ่มเพียงหวังว่าได้พูดคุยกับศิลปินในดวงใจก็นับว่าเป็นความโชคดีของเขาแล้ว แต่นี่กลับยังได้รับกำลังใจกลับมามากมาย เล่นเอาทำอะไรแทบไม่ถูกไปทั้งวัน นั่งอมยิ้มอย่างมีความสุข

นับจากวันนั้นเขาก็อัดเพลงลงเทปร่วม 10 เพลง แล้วส่งไปให้ยังที่อยู่ที่ รุ่งเพชร แหลมสิงห์ ทิ้งไว้ให้ พร้อมกับรอคอยความหวังด้วยใจที่เต้นระทึก

ตะแบกบานแล้วร่วง วันคืนผ่านไป เด็กหนุ่มคนนี้สำเร็จการศึกษาจาก วค. อุบลฯ พอดี และได้ไปสอบบรรจุครูที่โรงเรียนบ้านไร่ขี ซึ่งเป็นเขตชนบทที่ห่างไกลตัวเมืองไปพอสมควร แต่ก็สงบเงียบ

สำหรับชนบทที่ห่างไกลตัวเมืองแล้ว ครูหนุ่มโสดคนนี้นับว่าเป็นที่สนใจของชาวบ้านเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีบุคลิกที่อ่อนน้อม ถ่อมตน และเป็นคนมีอัธยาศรัย

การไปอยู่ในตอนแรกๆ ค่อนข้างลำบาก เพราบ้านพักครูค่อนข้างแดอัด เขาจึงไปอาศัยนอนในโณงเก็บของซึ่งอยู่ติดกับกำแพงวัด บรรยากาศก็เงียบสงบดี แต่ออกจะวังเวง

และความวังเวงนี่แหละที่ทำให้เขาหวลนึกไปถึงหญิงสาวที่เรียนจบมาด้วยกัน ซึ่งได้มานั่งอยู่ในใจเขา เพราะความคิดถึงที่ต้องแยกมาสอนยังโรงเรียนที่ห่างไกลกันเขาจึงมักเขียนจดหมายไปถึงสาวเจ้าเสมอเพื่อคลายความคิดถึง

การเขียนจดหมายถึงคนรักก็ย่อมต้องพยายามใช้ถ้อยคำที่สละสลวย นึกหาถ้อยคำต่างๆ ที่จะสื่อความรู้สึกให้ได้รับรู้ และนั่นก็นับเป็นการฝึกฝน ขัดเกลาในการแต่งเพลงของเขาในเวลาต่อมา

วันคืนผ่านไป ระยะทางก็เริ่มเป็นอุปสรรค สาวเจ้าเริ่มห่างหาย ความสัมพันธ์เริ่มจืดจาง แต่เขาก็เริ่มคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมในหมู่บ้านแห่งนี้แล้ว ครูหนุ่มโสดอย่างเขาย่อมเป็นที่หมายปองของเหล่าสาวๆ

วันคืนเลยล่วง ย่างเข้าวันเพ็ญเดือน 12  งานลอยกระทงที่วัดไร่ขีเริ่มมีขึ้นแล้ว นี่อาจจะเป็นความบันเทิงเพียงไม่กี่อย่างที่เขาพอจะเพลิดเพลินไปกับมันได้

ครูหนุ่มพาเหล่าศิษย์เดินไปเป็นกลุ่มๆ เพื่อไปเที่ยวงานวัด ซึ่งอยู่ไกลออกไปราว 10 กิโล ระหว่างทางผู้คนก็เดินกันไปเป็นกลุ่มๆ สาวๆ  ละแวกนั้นก็เดินผ่านไปมา จนสายตาอดที่จะเหลือบมองไมได้ ภาพอันงดงามเหล่านั้นมันประทับอยู่ในความทรงจำของเขามาโดยตลอด

กระทงของครูหนุ่มลอยไปตามสายน้ำอย่างช้าๆ พร้อมกับเงาจันทร์ที่ส่องกระทบลงมาบนผืนน้ำ บางครั้งก็มีมัจฉาที่พลิกโผนโจนทะยานขึ้นมา ซึ่งทำให้เกิดระลอกคลื่นที่แผ่ขยายออกไปเป็นวงกว้าง เสียงแคนแว่วผ่านมากระทบโสต

แหละภาพเหล่านั้นก็ได้กลายมาเป็นเพลง "กระทงหลงทาง" ในเวลาต่อมา...

[Nobunaga]

บ้านไร่ขี ดินแดนที่เงียบสงบ นั่นนับเป็นที่ที่เหมาะกับการแต่งเพลงของชายหนุ่มยิ่งนัก ยามว่างก็จะหากะปอม สอยไข่มดแดงเพื่อมาทำลาบก้อยกับเหล่าศิษย์ตัวน้อยๆ

5 เดือนแล้วสินะ ของการใช้ชีวิตเป็นครู และแล้ววันหนึ่งมีเพื่อนครูก็วิ่งหน้าตาตื่นมาหาที่บ้านพัก พร้อมกับหนังสือพิมพ์ไทยรัฐที่อยู่ในมือ

"สลา นายขายเพลงได้แล้วนะ ไทยรัฐลงข่าว รุ่งเพชร แหลมสิงห์ ซื้อเพลงของนายไปร้อง แถมเอาชื่อเพลงเป็นชื่ออัลบั้มซะด้วยสิ ดีใจด้วยจริงๆ!"

ถูกแล้วครับ ครูหนุ่มคนนี้ก็คือ สลา คุณวุฒิ ตามที่บางท่านก็คงพอจะทราบบ้างแล้ว

เพลงของสลาได้รับการบันทักเทป 2 เพลงด้วยกัน นั่นก็คือ เพลงสาวชาวหอ กับ กบร้องไห้ เท่านั้นยังไม่พอ "สาวชาวหอ" ยังถูกใช้เป็นชื่ออัลบั้มอีกด้วย

และเพราะมีผลงานชุดนี้ออกมา ก็ทำให้ชื่อเสียงของ รุ่งเพชร แหลมสิงห์ คืนกลับมาอีกครั้ง แม้จะไม่เปรี้ยงปร้างดังก่อนเก่า

ข่าวเพลงที่สลาเป็นผู้แต่งได้รับการบันทึกเทปจากนักร้องชั้นนำแห่งยุค กระจายไปทั่วหมู่บ้านในเวลาอันรวดเร็ว นำความปลาบปลื้มใจมาให้เขาเป็นอย่างยิ่ง สำหรับคนชนบทอย่างเขา ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่จะเป็นข่าวลงหน้าหนังสืพิมพ์

นอกจากได้รับการบันทึกเทปแล้ว เพลง สาวชาวหอ ยังได้รับการบรรจุเข้าไปในภาพยนตร์ไทยเรื่อง "พ่อตาจิ๊กโก๋" ซึ่งกำกับการแสดงโดย ประยูร วงศ์ชื่น อีกด้วย

จดหมายจากกรุงเทพฯ ส่งตรงมาหาเขาทันที เป็นการนัดหมายให้เดินทางไปเพื่อเซ็นมอบลิขสิทธิ์ พร้อมทั้งรับเงินไปพร้อมๆ กัน

การที่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในตัวจังหวัดจึงทำให้เขาไม่รู้ว่าจะเดินทางไปยังไง เลยต้องจ้างชาวบ้านคนนึงที่เคยไปทำงานในกรุงเทพฯ ให้เป็นผู้พาไป ด้วยเงินจำนวน 500 บาท

ค่าแรงในการแต่งเพลงคราวนั้นรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,000 บาท แต่เขาก็นับว่าพอใจ ในเมื่อเขายังเป็นเพียงนักแต่งเพลงหน้าใหม่

แต่ท่านทราบหรือไม่ว่า เพลง "รองเท้าหน้าห้อง" เมื่อไม่กี่ปีมานี้ เพลงเดียวเขาขายได้เป็นเงินทั้งสิ้น 200,000 บาท เพื่อเอาไปบรรจุลงในอัลบั้มด้านล่างนี้ ซึ่งขับร้องโดย ช้าง กำชัย!!

[tom]

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ  ครูสลานอกจากแต่งเพลงเก่งแล้ว ยังร้องเพลงเพราะด้วยนะครับ  โดยเฉพาะเพลง เสียงก้องจากโรงเรียนบ้านไกล ผมชอบมาก  และที่ผมชื่นชมครูสลาอีกอย่างคือท่านให้ความเห็นในการตัดสินประกวดร้องเพลงได้ละเอียดมาก และเป็นประโยชน์ต่อคนร้องมาก

[poccom19]

ได้ทั้งการฟังเพลง และได้รับข้อมูลประวัติครูสลาฯ ด้วยดีใจครับที่ท่านนำมาบอกให้ทราบ รูปแบบแนวนี้มีอีก จะขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ 

[Mr.thongchai]

   ขอบคุณครับสำหรับประวัติของครูสลาหาอ่านไม่ได้ง่ายๆหรอกครับ

[lungchai]

 อ่านประวัติของครูสลาแล้ว เศร้าเนาะ เหตุนี้หรือเปล่าทำให้ทุกเพลงที่ออกมาเหมือนมีอารมณ์และจิตวิญญาณ ขอบคุณข้อมูลดีๆจากกูรู ของบ้านที่อบอุ่น

[Kirk]

เรื่องของโชคชะตา ก็แปลกดี แต่งเพลงร้องเองกลับไม่ดัง แต่ก็ยังดีที่ความสามารถด้านการแต่งเพลงออกมาเป็นที่ประจักษ์แก่สังคมไม่เนิ่นช้าเกินไป วันนี้เป็นวันของครูสลาแล้วครับ ขอบคุณสำหรับความรู้ที่ได้รับการแบ่งปัน

[สะบันงา]

เรื่องของลิขิตที่หักเห นี่เกิดความคาดหมายของทุกคน แต่ก็สร้างสิ่งอัศจรรย์อันยิ่งใหญ่ให้บังเกิดขึ้นได้จริงๆ
ขอบคุณเกร็ดประวัติชีวิตที่หาอ่านที่ไหนทั่วๆไปได้ไม่ง่ายนักค่ะ