รวมเนื้อเพลงของ ครูสุรพล สมบัติเจริญ.

[กระต่าย]

เพลง ขุนช้างน้อยใจ
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ

     โอ้ผมเกิดมา พับผ่าเถิดกรรม
รูปกายก็อ้วนเหลือล้ำ ซ้ำช่างระยำหัวล้านสิ้นดี
ไอ้ผีจังไร มันปั้นผมได้ชะไอ้อัปปรีย์
เกิดมากับเขาทั้งที เป็นขุนช้างนี้มันน่าน้อยใจ
     ชิชะผ่าซิ ดูหรือเงินทอง
บ่าวไพร่ก่ายกอง กันออกทับถม กลับขาดคู่ชมเสียได้
คิดๆขึ้นมา มันให้แค้นใจ
ชั่วช้าไฉนเพียงแต่เส้นผม ทุกสิ่งงามสมเงินทองถมไป
     หลงรักแม่พิม นิ่มนวลน้อง
เฝ้ากอดประคองไม่ให้เดินดิน แล้วแม่ยุพินยังไม่เห็นใจ
ถึงว่าหัวล้านแต่ก็ใจดี หาอีกอย่างนี้ได้ที่ไหน
แม่กลับเปลี่ยนใจ ทิ้งไปจากเรา
     ชิชะขุนแผน นี้มันก็เพื่อนเกลอ
แต่พอเราเผลอ ย่องลักเมียได้
มันน่าเจ็บใจแค้นใจกว่าไฟเผา เมียรักเราทั้งคนซิมันก็ลักไป
ฟ้องที่ไหนหรือเราก็แพ้เขา พุทโธ่เมียเรากลับหลงรักมันได้
     อาภัพอับจน ก็แต่เส้นผม
ล้วนเงินและทองมากถม บ่าวไพร่ก็จมมันสมเมื่อไร
ไอ้ขาดคู่ชม นี่สิให้มันช้ำหัวใจ
นี่เรามันชั่วหรือไร ใครเขาไม่สนใจไยดี
     คิดหวังตั้งเห เอาทั้งเล่ห์กล
พึ่งเจ้าน้ำมนต์ของเราก็ไม่ขลัง ถ้าจะหมดหวังเสียแล้วพิมพี่
เคยชิดแนบชมกันมา ละก็หลายปี
กลับมาชังพี่ นี่แม่คุณเอ๊ย ช่างกะไรเลยไม่มาชื่นใจ...
 

[กระต่าย]

เพลง จ้ะจ้ะจ้ะ
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ

     บอกคุณแล้วไม่เชื่อ ผมน่ะเบื่อจริงๆ
ว่าโลกเรายุ่งเหยิง ผมพูดไว้จริงหรือเปล่า
จุกจิกๆ เหมือนน้ำพริกปนมะนาว
ถ้าเมื่อคุณยังสาว ก็เหมือนมะพร้าวหัวกะทิ..[จ้ะ จ้ะ จ้ะ]
     บอกคุณแล้วไม่จำ คุณกลับทำหน้างอ
เอาแต่ใจจะให้คอยง้อ คราวนี้ผมขอตำหนิ
จะเกลียดจะโกรธ ผมขอโทษอโหสิ
ต่อไปจะไม่ยอมริ กลัวเสียสติเปื้อนเปรอะ
     ยามคุณงอน หน้าเหมือนกะท้อนจิ้มกะปิ
ปนน้ำกะทิ สติเลอะเทอะ
คอยหวาดระแวงแกล้งตีหน้าเชอะ
ใจคุณเปรอะ เชื่อเถิดใช่ผมคนผิด..[จ้ะ จ้ะ จ้ะ]
     บอกคุณแล้วใช่ไหม ใช่ว่าผมใจดำ
ไม่อยากให้คุณชอกช้ำ ความรักมันทำให้วิปริต
หงุดหงิดๆ มาเสียจริตเปื้อนเปรอะ
พูดจาก็เลอะเทอะ เลิกรักกันเถิดคุณเสียสติ...
                                         

[กระต่าย]

...เพลงนี้สันนิษฐานว่า น่าจะออกมาก่อนเพลง “เขาพระวิหาร” ที่มีขายในท้องตลาดซึ่งเนื้อเพลง ไทยสู้ไม่ถอย
นี้ค่อนข้างจะรุนแรง มีการกล่าวออกชื่อผู้นำกัมพูชาด้วย คิดว่าครูสุรพล นำเอาเพลงนี้มาเกลาใหม่
จนเป็นเขาพระวิหารที่ฟังๆอยู่ทุกวันนี้
เพลง...ไทยสู้ไม่ถอย
ขับร้อง...ครูสุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง / ทำนอง...ครูสุรพล สมบัติเจริญ
วงดนตรี เลือดสุพรรณ
แผ่นครั่งสปีด 78 ตราเขาพระวิหาร
ประกบกับเพลง “เขาพระวิหารต้องกลับเป็นของไทย” ของ ชัยชนะ บุญนะโชติ(ข้อความนี้คุณอนุกูลได้ลงไว้ ขออนุญาตินำมาอ้างอิงด้วยนะครับ)


เพลง ไทยสู้ไม่ถอย
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ

    เขาพระวิหาร โบราณวัตถุของไทย
เคยครองอธิปไตย เพราะเป็นของไทยแต่เก่าก่อนมา
เราขอปกป้อง ช่วยกันคุ้มครองกันรักษา
หากใครกล้ามาราวี เราขอยอมพลีสู้จนขาดใจ
     เราประชาชนคนไทย ที่มีน้ำใจรักชาติ
ฟังข่าวเขมรบังอาจ ประกาศจะล้างชาติไทย
ชิชะ พ่อสีหนุ อวดมุทะลุกำแหง
ตัวเล็กนิดเดียวกล้าแข็ง สำแดงฤทธิ์เดชไปได้
เลือดไทยทุกคนร้อนผ่าว ฟังพ่อกุข่าวร้าวราน
จะคิดโกงเขาพระวิหาร เลือดไทยเดือดพล่านทั่วไป
เขาพระวิหารทั้งผอง เป็นของไทยครองก็มานาน
เจ้าจะเรียกร้องรังควาญ มาแย่งรุกรานไม่ได้
ทั้งเด็กเล็กแดงก็รู้ เป็นเขาคู่เมืองไทยมา
บันไดขึ้นเขาก็หันหน้า สร้างทางขึ้นมาทางไทย
ถ้าหากว่าเป็นของเจ้า จะต้องขึ้นเขาทางหน้าผา
เจ้าไม่อายชาวประชา ดูหรือไม่น่าเป็นไปได้
เจ้าอวดสำแดงแผลงฤทธิ์ แรงน้อยเพียงนิดยโส
เป็นคนขี้โกงแถมโม้ ชอบยั่วยโสคนไทย
เป็นคนเกะกะระราน รังควาญเพื่อนบ้านเคียงกัน
ไม่ตั้งในหลักธรรมมั่น จะพากันร้อนก็เป็นไฟ
เราชาวไทยถือเป็นพี่น้อง แต่เจ้าลำพองก่อกวน
เจ้าเป็นผู้นำเรรวน ชักชวนเขมรแตกไทย
เมืองไทยเป็นเมืองแห่งบุญ ควรนึกถึงคุณสังวร
เมื่อคราวที่เจ้าเดือดร้อน เคยมาพักผ่อนหนีภัย
เจ้าลืมบุญคุณคุ้มครอง ลืมเมืองพี่น้องใจดี
กลับคิดจะมาย่ำยี ไหง๋เป็นเช่นนี้ก็ไปได้
เจ้าเจ็บความช้ำเคยอยู่ ไม่อยากร้องกู่ต่อกร
ถึงเลือดภายในเราจะร้อน สู้เอาธรรมกล่อมข่มใจ
เราไม่รุกแต่เตรียมรับ ถ้าขยับ..ตาย...
 

[กระต่าย]

เพลง สาบานรัก
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ

    ฆ่าพี่เสียเถิด อย่าหาว่าพี่ท้าทาย
ให้พี่มันตาย เสียจากยุพิน
อยู่ไปขายหน้า ชั้นฟ้าชาวดิน
สูญสิ้นศักดิ์ศรี เพราะมีคู่แข่งแย่งรักไปครอง
    ฆ่าพี่เสียเถิด อย่าหาว่าพี่ท้าทาย
พี่หมดความหมาย เสียแล้วน้อง
ความจนขวางกั้น บั่นรักเราสอง
สุดปองสุดคว้า น้องเป็นดอกฟ้าพี่เป็นดอกดิน  
     น้องเอยพี่ขอลา พี่ต้องขอลาแล้วยุพิน
สกุลของพี่ต่ำเพียงดิน ไม่ควรถวิลเจ้ามาครอง
น้องสูงดังดอกฟ้า พี่เป็นดอกหญ้าหรือจะเทียบน้อง
เปรียบดังกระต่ายที่หมายปอง จ้องมองจันทร์
     พี่ขอหลั่งน้ำตาหยดสุดท้าย ให้จอมขวัญ
เพื่อตอบแทนของกำนัล ในวันวิวาห์แม่นาง
ขอให้น้องมีสุข อย่าได้มีทุกข์เข้ามาเคียงข้าง
ส่วนพี่นี้ขอแยกทาง ทนระทมแต่ผู้เดียว
     สิ่งเอ๋ยศักดิ์สิทธิ์ โปรดจงมาป็นพยาน
หญิงอื่นหมื่นพัน พี่จะไม่เกี่ยว
พี่ขอเป็นทาสพิศวาท แม่นางคนเดียว
ไม่เกี่ยวไม่ข้องหญิงใด ในท้องทั่วปัฐพี...
 

[กระต่าย]

เพลง เสียงครวญจากหมู่เฮา(อย่าลวงหมู่เฮา)
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ

     โอ้ละหนอผู้สาว ฮือ ฮื๊อ ฮือ โอ้ละหนอผู้สาว
บ่ฮักหมู่เฮา จะต้องเศร้าเสียใจ
ไปฮักคนเมืองใต้
เจ้าจะต้องช้าใจ นะสาวเอย
     โอ้ละหนอผู้สาว ชาวพิงค์
เจ้าเป็นหญิง คนเมืองใต้เปิ้นหลอกชม
ผู้สาวเจ้า ช่างงามสม
เจ้าก็หลงถ้อยคารม  สาวเจ้าก็ตรมน้ำตา
     โอ้ละหนอ วังบัวบาน
เป็นพยาน ผลาญจิตสาวสูญสิ้นชีวา
สาวเจ้าก็ยังบ่เข็ด บ่จำอุรา
เพราะผู้สาวใจชะล่า ต้องสูญค่าพรมจรรย์
***หมู่เฮา สงสารผู้สาว
ซึ่งเป็นชาว เมืองเหนือด้วยกัน
เจ้าบ่ฮักหมู่เฮา แล้วหรือนั่น
โอ้ละหนอน่าขัน ไปฮักกับคนเมืองไกล
     โอ้ละหนอผู้สาว ชาวพิงค์
เจ้าเป็นหญิง ใจเบายิ่งกว่าสิ่งใด
เจ้าใจฮักง่าย บ่อายหมู่เฮา
พอพลาดแล้วเจ้าก็เศร้า เจ้าไปโจนน้ำตาย...
     พอพลาดแล้วเจ้าก็เศร้า เจ้าไปโจนน้ำตาย
     พอพลาดแล้วเจ้าก็เศร้า เจ้าไปโจนน้ำตาย
     เจ้าไปโจนน้ำตาย เจ้าไปโจนน้ำตาย ฮือ อือ ฮือ
    โอ้ละหนอผู้สาว...
                          

[กระต่าย]

เพลง หาดทรายสีเงิน
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ

     ค่ำคืน ชื่นอุราหาใดมาปาน
สุขดังวิมาน บนหาดทราย
ละลอกพริ้วสาดกระเซ็น เห็นฟองกระจาย
หาดทราย ยามต้องจันทร์ดังสีเงิน
     ลมโบย โชยแผ่วมายิ่งพาให้เพลิน
สุขเหลือเกิน ยามเราเดินคู่กัน
บนหาดทราย แว่วเพลงรักรำพัน
เหมือนหาดสวรรค์ ของหนุ่มและสาว
    ต่างออดออเซาะ
กระซิกกระซี้
พร่ำรักอย่างโง้น พรอดรักอย่างงี้
แสนสุขฤดี อยู่บนหาดทราย
     ค่ำคืน โอ้เดือนเพ็ญ
ฟ้าแจ่มแพรวพราย
หาดทราย
ยามนี้ช่างน่าสุขจริง...
                       

[กระต่าย]

เพลง พม่าตีแปลง
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ

     พูดถึงเรื่องของเพลง สมัยนี้มักมีเพลงแปลกๆ
เพลงรำวง ผิดกว่าสมัยแรกๆ
ช่างมีแปลกๆ เพราะต่างก็แหวกแนวกัน  
เพราะสมัยนี้ผู้แต่งหลายคน เพลงก็ชักสับสนอลเวงอลหม่าน
ลาวตีเขียด พม่าแทงกบ พม่ารำขวาน
ล้วนแต่คำขบขัน ช่างเสกสรรค์มาแต่งเพลง
     ผมนี้ไม่รู้จะร้องอะไร
ตั้งแต่เล็กจนโตเป็นใหญ่ เคยแต่งเอาไว้กับเขาหนึ่งเพลง
จะเพราะแค่ไหน รับรองไม่ได้เชิญฟังเอาเอง
เอ้าดนตรีโปรดจงบรรเลง ผมจะร้องเพลงพม่าตีแปลง
***ข้าหมาบี้ ขี่หมาบ้า พม่าแปลง
คืนนี้เดือนหงาย โอ้พระพายก็พัดแรง
จะพรรณา ถึงพม่าตีแปลง
วันรับเงินเดือนนี้ ชักเชือนจะชี้แจง
รับเงินใบแดง ก็จัดแจงเต็มที่
ออกเดินเที่ยวหา ทั้งสุรานารี
เที่ยวสนุกกันที เพราะโลกนี้เป็นของเรา
     แรกๆก็แม่โขง
แล้วเลื่อนลง มาเป็นรวงทอง
ดวดจนปวดท้อง พม่ายังร้องเรียกเอา
จะดวดเท่าไร พม่าก็ไม่เห็นเมา
จะดวดเท่าไร พม่าก็ไม่เห็นเมา
เพียงแต่ซึมเซา แต่ว่าไม่เห็นมันเมาสักก๊ง
เปลี่ยนจากรวงทอง แล้วมาลองเหล้าโรง
ทีนี้พม่าหัวโคลง เลยล้มลงตีแปลง...
                                      

[กระต่าย]

เพลง นักร้องที่หมดแนว
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ

    ยามใด ที่ผมร้องเพลง
ตัวผมเอง ยังคิดตระหนักในใจ
เพราะผมเป็น นักร้องรุ่นใหม่
ถ้าร้องออกไป ผมกลัวนักร้องรุ่นใหญ่ไม่ดัง
     ไอ้ครั้นจะร้อง จำพวกเพลงรักๆ
ก็หวั่นใจนัก กลัวนริศเขาจะไม่ดัง
หากร้องแนวหวาน ก็ชักสงสารสุเทพจัง
ห่วงหน้าห่วงหลัง แหมมันช่างยากเหลือทน
      ไอ้ครั้นจะหันมาร้อง เพลงแนวชีวิต
แต่ใจยังคิด คิดถึงคำรณ
เพราะเพลงแบบนี้ เขามีชื่อเสียงล้น
ถ้าขืนร้องไปอีกสักคน คำรณคงหากินไม่ได้
     ไอ้ครั้นจะเปลี่ยน ร้องทางแนวพม่า
ก็ยังเกรงว่า วิเชียร ภู่โชติ เขาจะอาย
เลยไม่รู้ จะร้องเพลงแนวไหน
เฮ่อะ..ตัดใจ ร้องเพลงยี่เกดีกว่าเอย
..[ร้องลิเก]...รุ่งแจ้งแสงทอง
ไก่ก็ร้องหมาก็ขัน เมื่อยามตะวันรุ่งสาง
บ้างก็หาบของออกขาย บ้างก็ไล่ควายลงทุ่ง
บ้างมีสามล้อ บ้างก็มุ่งถีบออกไปหาสตังค์
บ้างที่เป็นข้าราชการ ก็รีบไปทำงานแต่เช้า
พอขึ้นรถเมล์ก็กุมกระเป๋า ไปเสียทั้งหน้าทั้งหลัง
เพราะเคยโดนมาเสียจนชิน เจ้าพวกหากินอย่างว่า
มันยืมไปใช้เสียจนระอา ถึงกับต้องเดินกลับบ้านหลายครั้ง
ทีนี้มาพูดถึงผมบ้าง นะครับพระคุณท่าน
พอรุ่งแจ้งแสงสุริยันต์ เมื่อยามตะวันจวนโด่ง
กระผมเก็บเอาดอกสำโรง หนอเข้าไปขายในวัง
แหมขายดีเสียไม่หยอก ผมขายสองดอกสตังค์...
  

[กระต่าย]

เพลง เพลงนี้เพื่อแฟน
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ

     เพลงนี้ไม่ขาย ถ้าชอบใจก็เชิญฟัง
ถ้ามีสตังค์ ก็ควรซื้อแผ่นเสียงไป
ถ้าหากไม่มี ฟังฟรีๆก็ได้
ผมไม่ว่าอะไร หรอกครับแฟนๆ
     แต่งมาก็มาก ร้องก็มากชักหมดพุง
บ้านนอกในกรุง ฟังกันครบจบแดน
ไม่รู้จะแต่งเพลงอะไร แล้วแฟนๆ
ปรบมือให้แน่นๆซิ ผมจะให้ร้องก็ให้ฟัง เฮอะ..(ปรบมือ)...เอาเลยลูกพี่
     ขอบใจมากครับ เอาเพลงพี่มันแก่แล้ว ก็แล้วกันนะฮะ (ไม่เอา มันเก่าแล้ว)
เอ้างั้น คนตรีขอจังหวะตลุงเทมโป้หน่อยก็แล้วกัน
     จะชมนารี ก็ที่รูปร่างโสภา
มากมายเกลื่อนตา ล้วนแต่อวบอั๋น
วันเสาร์วันอาทิตย์ ควรย่องไปสะพานหัน
อย่าให้เมียรู้ทัน เดี๋ยวกระบาลก็จะแยก เฮ่อะเฮ่อะ
     จะชมคนจีน ก็ต้องแถวถิ่นเยาวราช
ถ้าไปพาหุรัต ท่านก็จะเจอแขก
อยากจะดูจราจรรำ ต้องดูตามสี่แยก
อยากดูคนถังแตก ก็ต้องดูแถวโรงจำนำ
     อยากฟังเพลงดี ก็ต้องดนตรีสุรพล
นักร้องทุกคน หน้าตาคมขำ
ไพรวัลย์ ลูกเพชร เสียงเขาเด็ดเหลือล้ำ
อยากดูคนตัวต่ำ ก็ต้องดูเตี้ยบางเตย
     อยากมีแฟนควง ก็ต้องนึกห่วงกระเป๋า
อย่าเผลอชวนเข้าสำเพ็ง นะเพื่อนเอย
แหวนเพชรวงเดียว เดี๋ยวจะทำนั่งเฉย
หน้าซีดไม่เงย เพราะจะพาลก็เป็นลม
     จะชมคาวบอย ที่ชอบต่อยชอบบู้
ต้องดูหนังหรั่ง ถึงจะสุขใจสม
ดูแล้วอย่าจำ ทำตัวอวดข่ม
หากสังคมเขาเบื่อ ระวังจะเข้าซังเต
     อยากรวยเงินทอง ก็ต้องริอ่านเล่นม้า
โชคดีมีมา อาจะรวยสมคะเน
ใครสูบเฮโรอีน อย่านึกว่ามันโก้เก๋
ระวังจะเข้าซังเต นอนยิ้มเผล่อยู่ในกรง...
                            

[กระต่าย]

เพลง สนามหลวง
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ

    สนามหลวง สนามหลวง
สนามหลวง ดีทุกอย่าง ถ้าใครหลงทางไปไม่ได้
ก็มาตั้งต้นใหม่ ท้องสนามหลวง
สนามหลวง สนามหลวง หนาวร้อนไม่ต้องห่วง
พักผ่อนให้เย็นทรวง หาที่ไหนไม่มีสู้
ถ้าใครขาดคู่ ก็มีหมอดูใต้ต้นมะขามนั่นยังไง
     สนามหลวง มันเป็นบ่วงสลัก
ทุกคนย่อมรู้จัก เพราะได้ความรักใคร่
ทุ่งสนามหลวง ที่แสนโตใหญ่
เคยได้ชื่นฉ่ำใจ กันทุกครา กับแม่ยอดกัลยาจำได้ไหม
     สนามหลวง เป็นบ่วงสวาท
เดี๋ยวนี้พี่มาขาด สายสวาทหม่นไหม้
ใต้ต้นมะขาม พี่จำความได้
เคยได้ชื่นฉ่ำใจ กันทุกวัน
มาทิ้งพี่ ละให้เฝ้าโศกศัลย์
เมาเหล้าทุกวัน แย่ไม่ไหว
     สนามหลวง เดี๋ยวนี้มีแต่เศร้า
พี่เลยมานอนดูเขาชักว่าว กินเหล้าแก้เหงาปลอบหัวใจ
แม่อยู่ที่ไหนแม่คุณจงมา พี่เศร้าหนักหนาแทบทนไม่ไหว
พี่หมดตัวแล้วเพราะกินเหล้าใหญ่ มาช่วยปลอบใจให้พี่ที
     สนามหลวง ลวงพี่แทบม่อง
เพราะเคยได้เผากล้อง เผาตะเกียงปล่องดวงใจพี่
เมื่อเผาไปแล้วก็ยิ่งพับผี่
ทำไมยังงี้นะน้องยา พี่ก็ต้องมานอนสูบอยู่เลยไป
     ใหม่ๆพี่ละก็ว่าไม่ดี แต่มาเดี๋ยวนี้ยกมือท่วมหัว
มารู้ตัว แล้วก็เลิกฝิ่นได้
พี่เลิกฝิ่นแล้ว ร่างกายพี่ผ่องใส
โรงงานปิดแล้ว พี่ก็ไม่เสียใจ
แต่มาร้องไห้ เมื่อขาดน้องยาของพี่เอย
..กลับมาหาพี่เถิดทูนหัว พี่ยังรออยู่ใต้ต้นมะขาม
ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลงหรอก แม่ยอดกัลยาเอ๋ย...
                            

[กระต่าย]

เพลง แมมโบ้ยียวน
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ

***อะไร อะไร ก็มัมโบ้
อะไรอะไรก็มัมโบ้ อะไรอะไรก็มัมโบ้ ช่ะช่ะชา
มัมโบ้ยัก มัมโบ้เย เย้เย้แล้วก็ยักยัก ยักยักแล้วก็ย้ายย้าย
มัมโบ้มาแต่ไหน ผมจะเล่าให้ฟัง
     การ์เวียง ลูกัส เขาเข้ามาในเมืองไทย
แล้วมัมโบ้ก็แพร่หลาย คนชอบใจกันแทบจะคลั่ง
มัมโบ้อันที่จริงก็น่าฟัง พี่ไทยเล่นเข้าบ้าง
มัมโบ้น่าฟัง ก็กลับกลาย ฮื่อ..มัมโบ้
     ไอ้ทีของเรา มันไม่ยังงั้น
ดูๆมันน่าขัน ขยันมัมโบ้กันมากมาย
คุณพ่อชอบใจ โอ้อายเขาก็มัมโบ้
แน่ะผู้หญิงที่ท้องโต ร้องมัมโบ้ก็ยังได้
กลุ้มใจจริง มัมโบ้ก็ชื่นใจ
กางเกงกระโปรงขาย มัมโบ้อะไรไม่หยุดเลย
ช่ะช่ะชะ ช่ะช่ะชะ ช่ะช่ะชะ ช่ะช่ะชะ ๆๆๆ...
 

[กระต่าย]

เพลง ผมขอแต่งงานด่วน
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ

    ผมยังไม่แก่ ไม่เฒ่าเหลาเหย่นะครับ [ชะชะช่า]
ถ้าหากจะนับ อายุเพิ่งห้าสิบปี [ชะชะช่า]
ร่างกายแข็งแรง สมกับเป็นชายชาตรี
ลูกเมียผมยังไม่มี ขอบอกจริงๆนะครับรับรอง [รับรองๆ]
     ผมยังเป็นโสด แต่มันไม่ค่อยจะสด นะฮะ [ชะชะช่า]
สะอาดหมดจด ผิวพรรณเหลืองปลั่งดังทอง [ชะชะช่า]
ตระกูลผมดี เพราะว่ามีเชื้อรองๆ
ไม่เคยคิดมีคู่ครอง ขออยู่เป็นโสดไปจนขึ้นคาน
     แต่มา คิดๆดู
เดี๋ยวนี้โลกที่เราอยู่ อหิวาห์กำลังรุกราน
ปะเหมาะเคราะห์ร้าย ถ้าผมเกิดตายไปก่อนแต่งงาน
ขืนอยู่ไปจนขึ้นคาน เห็นท่าจะไม่ค่อยดี [ไม่ดี ไม่ดี]
     งั้นผมมีคู่ ดีกว่านะคุณๆครับ [ชะชะช่า]
เดี๋ยวเกิดปุ๊บปั๊บ เป็นอหิวาห์ขึ้นมาจะซี้ [ชะชะช่า]
สร้างชาติเสียเลย ผมว่าคงจะเหมาะดี
เลิกฝันขึ้นคานเสียที เดี๋ยวจะไม่มีทายาทสืบสาย
     ผมยังไม่แก่ ไม่เฒ่าเหลาเหย่นะครับ [ชะชะช่า]
ถ้าหากจะนับ อายุเพิ่งห้าสิบปี [ชะชะช่า]
ร่างกายแข็งแรง สมกับเป็นชายชาตรี
ลูกเมียผมยังไม่มี ขอบอกจริงๆนะครับรับรอง [รับรองๆ]
     ผมยังเป็นโสด แต่มันไม่ค่อยจะสด นะฮะ [ชะชะช่า]
สะอาดหมดจด ผิวพรรณเหลืองปลั่งดังทอง [ชะชะช่า]
ตระกูลผมดี เพราะว่ามีเชื้อรองๆ
ไม่เคยคิดมีคู่ครอง ขออยู่เป็นโสดไปจนขึ้นคาน
     แต่มา คิดๆดู
เดี๋ยวนี้โลกที่เราอยู่ อหิวาห์กำลังรุกราน
ปะเหมาะเคราะห์ร้าย ถ้าผมเกิดตายไปก่อนแต่งงาน
ขืนอยู่ไปจนขึ้นคาน เห็นท่าจะไม่ค่อยดี [ไม่ดี ไม่ดี]
     งั้นผมมีคู่ ดีกว่านะคุณๆครับ [ชะชะช่า]
เดี๋ยวเกิดปุ๊บปั๊บ เป็นอหิวาห์ขึ้นมาจะซี้ [ชะชะช่า]
สร้างชาติเสียเลย ผมว่าคงจะเหมาะดี
เลิกฝันขึ้นคานเสียที คิดว่าจะมีลูกสักหนึ่งโหล
จะดีไหมครับ [ดีจริงจริง]….
     

[กระต่าย]

เพลง เมืองสำราญ
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ

     กสิกรเขาออกทำไร่
พวกเราชาวไทย ไปตื่นทำงาน
ทุกคนเอาถ่าน เกียจคร้านไม่เป็น
ทำถึงเช้าจรดเย็น ไทยจึงเป็นไทยนานมา
     ยกทัพโยธา กันมาแล้ว
เห็นคนเป็นแถว ละไปเล่นม้า
ขาเข้าหน้าบาน เสียเต็มประดา
ขากลับออกมา หน้าตูมๆ โห่...เฮ้ว...
     ยกทัพกันมา สะพานหัน
เสียงซื้อโน่นนั่น กันจู๋จี๋
ของแพงเท่าไหร่ เป็นไรมี
น้องเป็นแฟนพี่ ต้องตามใจ โห่...เฮ้ว...
***การกินการอยู่ ใครจะสู้พ่อ
การแจวการถ่อ ทนไม่ไหว
การโกงการเก่ง เบ่งกันไป
จะหาได้มากมาย เสียจริงเอย โห่...เฮ้ว...
     ทัพหน้าทรงจิ้งเหลน เดินนำหน้า
ทัพหลังขี้ยา เดินสลอน
ตามถนนขอทาน เดินสัญจร
ค่ำแล้วเที่ยวนอน ตามวัดเอย โห่...เฮ้ว...
             

[กระต่าย]

เพลง มดไฟแมมโบ้
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ

     แปลกจริงเอ๋ย ดูโน่นซิเห็นไหม
โน่นแน่ะอาเสี่ยอ้วนใหญ่ มีแต่มดไฟไต่กัน
     ผู้หญิง ละจำพวกมดไฟ
ถ้ากัดใคร แล้วเป็นต้องปวดคัน
หากผู้ชาย เรารู้ไม่เท่าทัน
แล้วเธอก็ช่วยกัน รุมเกาะกินละเกาะกิน
     ผู้หญิง ละจำพวกมดตะนอย
แหมเฝ้าคอย เต๊าะชายด้วยเล่ห์ลิ้น
เพื่อจะลวง ให้ชายใฝ่ถวิล
แล้วเธอได้เกาะกิน ละเกาะกินละไข่แดง
***อาเสี่ยเอ๊ย กำลังเงินดี
อีแร้งผี บินมาเต็มแรง
มันโฉบตี เสียจนกระเป๋าแหว่ง
เฉพาะไอ้ใบแดงๆ อีแร้งมันนั้นชอบใจ
     ผู้หญิง ละจำพวกมดดำ
เห็นกระเป๋างามๆ ทำว่องไว
เบิกนัยตาลุกวาว แจ่มใส
แล้วตีสนิทใกล้ ให้ผู้ชายเชยชม..
ให้ชายเชยชม ให้ชายเชยชม...
 

[กระต่าย]

เพลง หยาดน้ำสังข์
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ+ปทุมรัตน์ สอนระเบียบ

[ญ.]      หยาดน้ำสังข์หลั่งล้น
       เหมือนพรมงคล ที่ร่วงหล่นจากปลายสังข์
       ฝูงชนคับคั่ง เขามาไหลหลั่งต่างคนต่างให้พร
       บ่าวสาวแนบข้าง นั่งคู้อยู่ที่เตียงไม่ห่างหมอน
       โน้มคำนับรับพร น้ำทิพย์มงคลที่หล่นที่ร่วงจากสังข์
             เทพไทบนฟ้า เป็นพยานฉันด้วย
       ฟ้าดินจงช่วยด้วยเถิด ขอให้พรนั่นขลัง
       ด้วยจตุรพร อายุวัณโณ สุขัง พะลัง
       อยู่กินจนกระทั่ง ฟ้าดินจะสลายมลายลง
[ช.]      หยาดน้ำสังข์หลั่งล้น
       เหมือนพรมงคล ที่ร่วงหล่นจากปลายสังข์
       ฝูงชนคับคั่ง เขามาไหลหลั่งต่างคนต่างให้พร
       บ่าวสาวแนบข้าง นั่งคู้อยู่ที่เตียงไม่ห่างหมอน
       โน้มคำนับรับพร น้ำทิพย์มงคลที่หล่นที่ร่วงจากสังข์
             เทพไทบนฟ้า เป็นพยานฉันด้วย
       ฟ้าดินจงช่วยด้วยเถิด ขอให้พรนั่นขลัง
       ด้วยจตุรพร อายุวัณโณ สุขัง พะลัง
       อยู่กินจนกระทั่ง ฟ้าดินจะสลายมลายลง
[ช.+ญ.]      หยาดน้ำสังข์หลั่งล้น
       เหมือนพรมงคล ที่ร่วงหล่นอยู่บนปลายสังข์
       ฝูงชนคับคั่ง เขามาไหลหลั่งต่างคนต่างให้พร
       บ่าวสาวแนบข้าง นั่งคู้อยู่ที่เตียงไม่ห่างหมอน
       โน้มคำนับรับพร น้ำทิพย์มงคลที่หล่นที่ร่วงจากสังข์
             เทพไทบนฟ้า เป็นพยานฉันด้วย
       ฟ้าดินจงช่วยด้วยเถิด ขอให้พรนั่นขลัง
       ด้วยจตุรพร อายุวัณโณ สุขัง พะลัง
       อยู่กินจนกระทั่ง ฟ้าดินจะสลายมลายลง...