บทเพลงบรรเลงสวด ๒.มหากรุณาธารณีสูตร(ไต้ปุยจิว)

[เจ เหน่งบา]

ไหว้ครูก่อนนะครับ
บทความ ตลอดจนเพลงที่นำเสนอนี้ คัดลอกมาจากนิตยสาร The Sound  ฉบับที่ 30 มีนาคม 2544
โดยคุณจงจินต์ เสรีรักษ์(เปลี่ยนชื่อเป็นธนกฤต) เจ้าของนามปากกา เจเจ และเด็กวัด ซึ่่่งเป็นที่รู้จัก
และนับถืออย่างยิ่งในวงการเครื่องเสียง


มหากรุณาธารณี (ไต่ปุยจิว)
Fujit  FCD97-13

อัลบั้มต่อมาที่จะได้แนะนำให้ลองฟังชุดนี้  
จัดได้ว่าสำคัญมากที่สุดในบทสวดของพุทธศาสนามหายาน   มีการนำมาบันทึกลงคาสเซ็ทเทป
และอื่นๆอย่างต่อเนื่อง   และมีท่วงทำนองในการขับขาน(สวด)ที่แปลกแยกแตกต่างกันออกไป
นั่นคือ “ มหากรุณาธารณีสูตร ” ( ไต่ปุยจิว)

“ ธารณี ” หมายถึงคาถา   เวทมนต์   หรือสูตรที่เชื่อกันว่าสามารถคุ้มครองผู้สวดผู้ฟัง   แล้วยังอำนวยประโยชน์ให้ผู้สวดผู้ฟัง
โดยอำนาจลึกลับของมัน   ก็แล้วแต่จะว่ากันไป

อัลบั้มชุดนี้   มีแผ่นก๊อปปี้ลอกเลียนทั้งแผ่นซีดีและวีซีดีออกมาจำหน่ายมากที่สุด   ในความเห็นของผม  
ซึ่งได้ลองฟังทั้งแผ่นต้นฉบับและแผ่นก๊อปปี้แล้ว   แม้ว่าแผ่นก๊อปปี้ที่พ่อค้าหัวเสธในบ้านเราจะปั้มออกมา
จำหน่ายในราคาถูกมากก็ตาม แต่คุณภาพเสียงสู้ต้นฉบับไม่ได้เอาเสียเลย

อีกประการหนึ่ง   ผมคิดว่าแนวเพลงลักษณะนี้น่าจะเป็นทั้งบทสวดและบทเพลงที่มีคุณค่าในตัวเอง   ซึ่งค่อนไปทางบริสุทธิ์นิยม
คล้ายอาหารประเภทชีวจิต   ถ้าจะซื้อหาไว้ครอบครอง   ก็ไม่ควรส่งเสริมเทปผีซีดีปลอม อย่างน้อยก็เพื่อความเป็นมงคลแก่ตัวเอง   ราคาแผ่นต้นฉบับก็ใช่จะสูงอย่างแผ่นออดิไฟล์ก็เปล่า   คุณภาพด้านเสียง   แม้ยังไม่ถึงขั้นควรยกย่องในแง่ของ
นักฟังหูทิพย์หูทองก็ตาม   แต่ก็ใช่จะแย่จนฟังกันไม่ได้เช่นแผ่นเพลงไทยบางค่ายเสียทีเดียว
  
อย่างไรก็เถอะครับ   แผ่นฯแท้ยังจัดว่ามีคุณภาพดีกว่าแผ่นปลอมอยู่หลายขุม

บทสวดที่นำมาเรียบเรียงด้วยดนตรี   มีเมโลดี้ที่ไพเราะน่าฟังนี้   ประกอบด้วยมหากรุณาธารณีสูตร
ที่มีทั้งหมด 84 วลี   ในแต่ละวลีนั้นเป็นปรัชญาธรรมที่สามารถอธิบายขยายความออกไปได้อีกเป็นพิศดาร  
ล้วนเป็นคำสอนในพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น

มหากรุณาธารณีสูตรนี้   ในหลายคัมภีร์ทางมหายานกล่าวไว้ว่า   พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ ( พระโพธิสัตว์กวนอิม)
ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง   ทรงประทานให้   และเมื่อพระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์
ได้ฟังพระสูตรนี้โดยตลอดแล้ว   ก็ได้ฌานบรรลุไปถึงภูมิที่แปดในทันที

สำเนียงและเสียงของกลุ่มผู้ขับขาน   ในอัลบั้มทั่วไปมักจะใช้ผู้ขับร้องบทสวดเหล่านี้เป็นนักเรียนธรรมของไต้หวันบ้าง  
หรือไม่ก็นักร้องอาชีพบ้าง   ตามแต่บริษัทผู้ผลิตเขาจะสรรหามา ขับร้องกันเป็นกลุ่มเสียงประสานเรียกว่าขับร้องหมู่
ความไพเราะส่วนหนึ่งก็มาจากการขับขานเป็นกลุ่มนี่แหละ   มันให้บรรยากาศที่โอ่อ่าน่าเกรงขามดีแท้  

ความพิเศษที่ว่ามีอยู่ในอัลบั้มนี้ก็คือ   กลุ่มผู้ขับร้องคำสวดทั้งหมดที่ได้ฟังนี้   เป็นพระภิกษุมหายานของธิเบต   แล้วคำสวดที่นำมาขับขานทั้งหมดนั้นเป็นภาษาสันสกฤตสำเนียงธิเบต   ซึ่งจะออกสำเนียงที่คลาดเคลื่อนไปจากสำเนียงจีน
(แมนดาริน-แต้จิ๋ว) อยู่บ้าง   แต่ก็พอจะจับแนวทางได้   เพราะรากฐานก็คือภาษาสันสกฤตนั่นเอง  

ความไพเราะน่าฟังของอัลบั้มชุดนี้   นอกจากน้ำเสียงของพระที่ขับขานกันพร้อมเพรียงเป็นกลุ่มก้อน  
ซึ่งทำให้เกิดบรรยากาศโอ่อ่าน่าเกรงขามอย่างที่ว่าไว้แล้ว   จังหวะจะโคนก็ไม่น้อยหน้าทีเดียว   ค่อนไปทางเร็ว  
คึกคักประปราย   แถมมีการเล่นวรรคตอนของคำสวดด้วยอักขระให้สะดุดจังหวะ   เพื่อความสอดคล้องน่าฟังอีกต่างหาก
คล้ายกลองยาวอยุธยา   ถ้าจะตีกันไปเรียบๆมันก็น่าเบื่อ   นานๆก็ขัดจังหวะให้คร่อมเสียทีหนึ่ง   ฟังแล้วสะใจดี

ดนตรีประกอบยืนพื้นก็เป็นเครื่องเคาะของจีน   และโดดเด่นในช่วงอินโทรกับท่อนแยกของเพลงด้วยเสียงขลุ่ย(ฟรุ๊ต)
แน่นอนครับ   จะขาดเสียมิได้ก็คือเครื่องสายจำพวกขิมหรือจะเข้นี่แหละ ชุดนี้ถ้าว่ากันเฉพาะในแง่ของดนตรี  
ค่อนข้างจะให้เสียงกิตาร์เบสล้ำหน้าไปหน่อย   แต่คงถูกใจนักฟังคอทุ้มละครับ   ได้ชุดเครื่องเสียงคุณภาพดีสักนิด  
เปิดให้เสียงดังสักหน่อย   พระเดชพระคุณเอ๋ย   ถึงวิมานฉิมพลีกันเลยทีเดียวเชียว !

เมื่อพิจารณาที่ท่วงทำนองซึ่งลงตัว   คำสวดที่นำมาเรียบเรียงได้อย่างมีเสน่ห์สำหรับการขับขาน   ดนตรีประกอบ
ที่ค่อนข้างคึกคักสนุกสนานร่าเริง   บรรยากาศที่ทำให้รู้สึกได้ถึงความเยือกเย็นและผ่อนคลายอยู่ในที  
แถมด้วยสำเนียงของพระคุณเจ้าที่มีความพร้อมเพรียงนุ่มนวล   แผ่นละร้อยกว่าบาทก็นับถูกน่าใจหาย  
ฟังได้ทั้งครอบครัวไม่ว่าในร่มหรือกลางแจ้ง   ไม่จำกัดกาลเทศะ   อยากฟังเมื่อใด  
ก็เชิญหยิบขึ้นมาบรรเลงเถิด   ไม่ผิดหวังเป็นแม่นมั่น

สำหรับท่านผู้ใดที่ทราบอยู่แก่ใจตนเองว่า   มีอุปนิสัยใจคอค่อนข้างโหดร้าย   ย่อหย่อนในความมีเมตตาต่อตนเองและผู้อื่น
มักจะมองอะไรไปในแง่ร้ายอยู่เนืองๆ   ท่านว่าจริตนั้นเหมาะที่จะฟังอัลบั้มนี้ยิ่งนัก   หากได้ฟังจนติดหูแล้ว  
ไม่เพียงได้ความไพเราะผ่อนคลายจากอัลบั้มนี้เท่านั้น   แต่จะช่วยให้จิตใจหรือกมลสันดานส่วนลึกที่ไม่ค่อยดีนัก  
ละลายหายไปในที่สุด ความเยือกเย็นในจิตใต้สำนึกและการมองโลกในแง่ดี   ก็จะมีที่ว่างให้เข้ามาทดแทน   เอาเป็นว่า   ถ้าจะลองฟังบทเพลงบรรเลงสวดกันเป็นครั้งแรกในชีวิต  ขอแนะนำให้เริ่มต้นฟังอัลบั้มนี้เป็นอันดับแรก

        
          http://www.mediafire.com/?72i7h5xbrp87zr5