ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
มีนาคม 29, 2024, 06:52:25 PM

 


  หน้าแรก  • ช่วยเหลือ  • ค้นหา  • เข้าสู่ระบบ  • สมัครสมาชิก



สถานีวิทยุออนไลน์
สายสัมพันธ์





ท่านสามารถขอเพลงฟังได้
ที่กล่องขอเพลงด้านซ้ายมือ
แต่อาจไม่ได้รับฟังทุกเพลง
เนื่องจากจะรองรับเพลงตามขอ
ของสมาชิกภายในก่อน
หน้า: [1]
 
ผู้เขียน หัวข้อ: “พระมหาชนก” บนผนังพระอุโบสถ วัดไทยในอินเดีย จิตรกรรมฝาผนัง ยุครัชกาลที่ 9 แห่งแร  (อ่าน 2930 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
prisana
ปลดออกจากสมาชิก


คำขอบคุณ: 5305
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1271
สมาชิก ID: 1256


Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 28 : Exp 97%
HP: 0%

อนุรักษ์บทเพลงดีมีคุณค่าให้คงอยู่คู่แผ่นดินสืบไป


« เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 10:35:17 AM »




หากภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระพุทธรัตนสถานพระบรมมหาราชวังชั้นใน เป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังแห่งยุครัชกาลที่ 9 แห่งแรก
       
       ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ประเทศอินเดีย ก็จะ กลายเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังแห่งยุครัชกาลที่ 9 แห่งที่ 2 และเป็นแห่งแรกในต่างประเทศ
       
       โดย เมื่อ พ.ศ.2543 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานภาพประกอบในหนังสือพระราชนิพนธ์เรื่อง “พระมหาชนก” จำนวน 16 ภาพ และภาพพระราชกรณียกิจ จำนวน 6 ภาพเพื่อนำมาเขียนเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนัง แต่ก็ต้องพบกับอุปสรรคนานาประการ
       
       กระทั่งมีคณะผู้มีจิตศรัทธาจากประเทศไทยคณะหนึ่งเดินทางไปสักการะสังเวชนียสถานที่ประเทศอินเดีย และ ได้แวะเข้าไปที่วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ พระราชรัตนรังสี เจ้าอาวาสวัด จึงได้ขอให้คณะผู้มีจิตศรัทธาเหล่านั้นได้ดำเนินการต่อ จึงทำให้โครงการเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนัง ณ วัดไทยแห่งนี้ ซึ่งมี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับเป็นประธานโครงการ สามารถดำเนินการต่อไปได้
       
       เป็นที่ทราบกันว่า ภาพประกอบในหนังสือพระราชนิพนธ์เรื่อง “พระมหาชนก” เป็นภาพประกอบที่มีศิลปินหลายๆคน ช่วยกันเขียน แต่ พลอากาศตรี อาวุธ เงินชูกลิ่น ศิลปินแห่งชาติ,อดีตอธิบดีกรมศิลปากร และหนึ่งในคณะกรรมการของโครงการเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังในครั้งนี้ เห็นว่าการจะนำภาพเหล่านั้นไปเขียนเป็นภาพจิตกรรมฝาผนัง คงจะไม่สามารถถ่ายทอดเนื้อหาสาระของพระราชนิพนธ์ได้อย่างครบถ้วน คณะกรรมการอยากให้ภาพเป็นไปในรูปแบบเดียวกัน เพื่อผู้ชมจะได้ชมเข้าใจง่าย จึงเห็นว่าหากใช้วิธีการเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบไทยดั้งเดิมจะเหมาะกว่าและถือเป็นการเผยแพร่ศิลปะไทยในต่างแดนด้วย
       
       พลอากาศตรี อาวุธ จึงได้มอบหมายให้ มณเฑียร ชูเสือหึง จิตรกร กลุ่มจิตรกรรมศิลปประยุกต์และลายรดน้ำ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เขียนแบบลายเส้นโดยละเอียดตามพระราชนิพนธ์เรื่อง “พระมหาชนก” ทั้งเรื่อง แล้วนำทูลเกล้าถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตร เมื่อเป็นที่พอพระทัย จึงทรงมีพระราชานุญาตให้นำแบบทั้งหมดขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ซึ่งทรงโปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาตลงมาเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ.2551







 มณเฑียร ผู้เคยเป็นหนึ่งในทีมงานเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระพุทธรัตนสถาน พระบรมมหาราชวังชั้นใน มาก่อน และมีเกียรติประวัติและผลงานเป็นที่น่าพอใจ จึงกลายเป็นจิตรกรเพียงคนเดียวที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการออกแบบและเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนัง
       
       โดยก่อนที่จะลงมือเขียนภาพ นอกจากมณเฑียรจะได้เดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่จริง คือ พระอุโบสถ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ เขายังต้องกลับไปศึกษา ทั้งเรื่องราวของพระมหาชกที่ปรากฎในวรรณกรรมทางพุทธศาสนาและที่ปรากฏในหนังสือพระราชนิพนธ์
       
       จากนั้นมณเฑียรได้ถ่ายทอดออกมาเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบสามมิติ(แบบโบราณสองมิติ)ที่มีความผสมผสานระหว่างเอกลักษณ์ไทยและอินเดีย สังเกตได้ในส่วนของ ภาพคน สถาปัตยกรรม และฉากหลัง นอกจากนี้ในบางส่วนของภาพก็ยังมีวิธีการเขียนแบบตะวันตก เช่น การตกทอดของเงา
       
       อย่างไรก็ตามยังคงรักษารูปแบบบางอย่างของช่างโบราณไทยเอาไว้ เช่น ยังมีเรื่องของการตัดเส้น และการจัดองค์ประกอบแบบ Bird Eye View หรือ มองจากมุมสูงลงมาต่ำ
       
       แต่ที่ต่างออกไปมณเฑียรไม่ได้เขียนภาพลงบนผนังพระอุโบสถโดยตรงตามแบบโบราณ แต่เขียนลงบนผ้าใบ ก่อนจะนำไปผนึกบนผนังอีกครั้ง
       
       เนื่องจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเห็นด้วยกับ พลอากาศตรี อาวุธ ว่าแทนที่จะเขียนภาพลงไปบนผนังพระอุโบสถตามที่เคยปฏิบัติกันมา ควรจะเขียนลงในแผ่นผ้าใบแล้วจึงนำไปปิดลงบนผนังพระอุโบสถ เพราะวิธีนี้จะแก้ปัญหาเรื่องความชื้นของผนังพระอุโบสถ ซึ่งจะทำให้ภาพจิตรกรรมชำรุดต้องซ่อมแซมอยู่เสมอ และจะเป็นการทุ่นค่าใช้จ่ายและเวลาเพราะการเขียนภาพสามารถหาจิตรกรที่ชำนาญเขียนขึ้นในประเทศไทยและไม่ต้องใช้เวลาในการเขียนนานหลายปี
       
       “เราใช้เทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น ผ้าใบที่ใช้สำหรับภาพเขียนแต่ละตอน กว้าง 3.2 เมตร ยาว 15 เมตร ที่เมืองไทยไม่มีฮะ ต้องไปสั่งซื้อมาจากอเมริกา และสีที่ใช้ก็เป็นสีอะคริลิค สีวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นสีสมัยใหม่ที่มีคนใช้กันอย่างแพร่หลายในแวดวงศิลปะ เพราะสะดวกสบายในการเขียน ไม่ยุ่งยากเหมือนสมัยก่อน”
       
       มณเฑียร จิตรกรผู้เขียนภาพบอกเล่าและขณะนี้ก็ใกล้เวลาที่ภาพเขียน จะถูกเคลื่อนย้ายจากสตูดิโอของเขา ณ ประเทศไทย ไปติดตั้งที่ผนังพระอุโบสถ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ณ ประเทศอินเดีย ในช่วงต้นปี พ.ศ.2554







  ภาพจิตรกรรมฝาผนังทั้งหมด มี 39 ตอน แบ่งเป็นภาพที่นำเสนอเรื่องราวของพระมหาชนกที่ปรากฎในวรรณกรรมทางพุทธศาสนาและที่ปรากฎในพระราชนิพนธ์ รวม 36 ตอน และภาพเกี่ยวกับเทพชุมนุมอีก 3 ตอน
       
       โดยภาพจิตรกรรมฝาผนังในส่วนของพระมหาชนกที่ปรากฎในพระราชนิพนธ์ เน้นในเรื่องราวที่เข้ากับสังคมไทยในปัจจุบัน ตลอดจนด้านการศึกษาและด้านเกษตรกรรม อาทิ ตอนที่พระมหาชนกลงเรือมาค้าขายที่สุวรรณภูมิ และใช้ความเพียรแหวกว่ายอยู่กลางมหาสมุทร เพื่อให้ผู้พบเห็น นอกจากสัมผัสเอาความงดงามของงานจิตรกรรมฝาผนัง ยังรับเอาข้อคิดในเรื่องความเพียรที่ถ่ายทอดไว้ในภาพกลับไปด้วย
       
       ดังเช่นที่ มณเฑียร จิตรกรชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชที่ได้มีโอกาสทำงานใหญ่อีกครั้ง ก็ได้ยึดเรื่องความเพียร ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถ่ายทอดไว้ในหนังสือพระราชนิพนธ์เรื่อง “พระมหาชนก” เป็นกำลังใจให้เขาเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังได้สำเร็จลุล่วง
       
       “การทำงานมันต้องมีความเพียร ถ้าไม่มีความเพียร มันก็ไม่มีความสำเร็จ ความเร็จของทุกสาขางาน เกิดจากความเพียรและความขยันของตัวเราเอง”
       
       และจิตรกรเช่นเขาก็มีความตั้งใจที่จะใช้ความเพียรในทางที่ถูกที่ชอบ ดังเช่นในพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก บอกไว้ว่า “ความเพียรโดยธรรม คือ ความเพียรของบุรุษ” ทำงานศิลปะทั้งในโอกาสนี้และในอนาคต เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
       
       “ในฐานะที่เราเป็นจิตรกร และเรียนทางด้านศิลปะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชอบมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว อยากสนองพระราชดำหริของพระองค์ท่าน ด้วยการต่อยอด รูปแบบจิตรกรรมฝาผนัง ตามที่ผมได้รับพระราชกระแสมาดำเนินการ ต่อไป เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ”
   





















ขอขอบคุณภาพ และข้อมูลจาก :   http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9530000169479
สมาชิกใหม่ทุกท่าน >>> กดที่นี่

ท่านเป็นเช่นนี้หรือไม่ ?
1 login ... เข้าเวป
2 หาเพลงโหลด
3 มีให้โหลด ตอบเพื่อโหลด ไม่มีให้โหลด ไปข้อ4
4 logout ... ไปดีกว่า
อา-ราย-หว่า ???

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
 
 
กระโดดไป:  






Saisampan.net
สายสัมพันธ์ - เพลงลูกทุ่งเก่า (เก่ากว่าที่ท่านคิด)
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!