ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
เมษายน 19, 2024, 04:39:44 PM

 


  หน้าแรก  • ช่วยเหลือ  • ค้นหา  • เข้าสู่ระบบ  • สมัครสมาชิก



สถานีวิทยุออนไลน์
สายสัมพันธ์





ท่านสามารถขอเพลงฟังได้
ที่กล่องขอเพลงด้านซ้ายมือ
แต่อาจไม่ได้รับฟังทุกเพลง
เนื่องจากจะรองรับเพลงตามขอ
ของสมาชิกภายในก่อน
หน้า: [1]
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ทรงผมหญิงไทย  (อ่าน 4427 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
nongna
ปลดออกจากสมาชิก


คำขอบคุณ: 1731
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 589
สมาชิก ID: 1301


Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 19 : Exp 68%
HP: 0%

สวัสดีค่ะ


« เมื่อ: มกราคม 23, 2011, 09:28:49 PM »

ทรงผมหญิงไทย

ทรงผมกับมนุษย์เป็นของคู่กัน แต่ใครจะประดิษฐ์คิดออกแบบทรงไหนแล้วดูดีสมฐานะนั้น ขึ้นอยู่กับเหตุผลของแต่ละคนไป แต่สาวไทยใจถึงยุคนี้ก็ยังจะไว้ผมทรงเดียวกับดารา แม้จะรู้ว่าไม่รับกับใบหน้าหรือบุคลิกภาพของตนก็ตาม ไปเข้าตำราไม่ให้ แต่ใจรักซะอย่าง แม่เม้าเองถ้าไม่ติดขัดด้านทุนทรัพย์ จะไปลบรอยตีนกา แถมร่ำๆ จะทำผมทรงแม่นัท มีเรียกะเค้าเหมือนกันแหละ

สมัยก่อนไม่มีมูส เจล โฟม หรือแม้แต่สเปรย์ ก็ได้แต่อาศัยจับเขม่าใส่น้ำมัน กันหน้า เก็บไร ตามมีตามเกิด แต่น่ายกย่องน้ำใจหญิงไทยตรงที่เธอมีเหตุผลของการไว้ผมทรงต่างๆ ที่ดูเข้าท่า น่าสรรเสริญ ซึ่งเป็นเหตุผลของการใช้สอยส่วนตัวแล้ว ทรงผมที่แปลกปลี่ยนไปแต่ละยุค  ก็ด้วยเหตุของการต้องปลอมตัวเป็นบุรุษ เพื่อป้องกันประเทศชาติในยามศึกสงคราม หญิงไทยก็ตัดผมสั้นทะมัดทะแมงอาจใช้ปลอมตัวเพื่อหนีภัยสงคราม หรือแม้แต่ยามสงบ พักรบเพื่อพบรักก็แล้วแต่ สตรีไทยไม่เคยเสียดายความงามที่ถูกหายไปกับเส้นผมที่ถูกตัด แต่ยังคงความงามที่เรียกกันว่างามอย่างมีคุณภาพได้ประโยชน์ และสนองคุณแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนครบถ้วน น่าชมเชยน้ำใจยิ่งนัก

เราลองมาลำดับความเป็นไปของเส้นทางบนถนนแฟชั่นทรงผมชองสาวไทยดูว่ามีการพัฒนากันอย่างไรบ้าง สันนิษฐานว่า หญิงไทยน่าจะไว้ผมเกล้าขึ้นสูงมาตั้งแต่แรกเริ่มเป็นชาติไทย ไม่ได้เลียนแบบมาจากพราหมณ์อย่างที่เข้าใจกันแต่ประการใด เพราะชาวเอเชียแถบตะวันออก มักเกล้าผมทรงสูงเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว ไม่ว่าจีน หรือญี่ปุ่น ก็นิยมเกล้าผมเช่นกัน

สตรีไทยสมัยไทยมุง กับสมัยทวาราวดี จึงเกล้ามวยเป็นจอมสูงขึ้นไปเหนือศีรษะ แล้วรัดกลางให้ตอนบนสยายออก เป็นพุ่มด้วยเครื่องประดับให้สวยงาม บางครั้งก็ถักเปียระสองข้างแก้ม จัดเรียงเป็นเปียเส้นเล็กๆลงมาให้เป็นกระรอบวงหน้า

สาวชาวศรีวิชัย ก็เกล้าผมมวยสูงเช่นกัน โดยทำเป็นรูปข้าวบิณฑ์ สวมกลีบรวบด้วยรัดเกล้า ปล่อยชายผมปรกลงมาด้านหลัง บางครั้งมุ่นเป็นมวยทรงกลมเหนือศีรษะ ใช้รัดเกล้าเป็นชั้น  ปล่อยปลายผมประบ่า ๒ ข้าง มีการถักเปียบ้างเหมือนกัน

สตรียุคอาณาจักร อ้ายลาว ต้องบุกป่าฝ่าดง จำเป็นต้องแต่งกายให้กระชับรับกับสถานการณ์ ผมจึงมุ่นขึ้นสูงเหมือนสมัยน่านเจ้า

ครั้นสมัยลพบุรี หญิงสาวหวีผมแสกกลาง ตอนบนมุ่นป็นมวยแล้วประดับด้วยการปักปิ่นยอด

สตรีสมัยเชียงแสน แม้จะไว้ผมมวย แต่จะเกล้า ให้ค่อนไปข้างหลังศีรษะเล็กน้อย ที่ขาดไม่ได้คือ รัดมวยผมด้วยเครื่องประดับรอบมวยผม

สาวไทยเริ่มนิยมผมแสก ปล่อยผมให้ประบ่าในยุคสุโขทัยนี่เอง แต่ก็ยังไม่ทิ้งผมเกล้าสูงเสียทีเดียว อาจจะเป็นเพราะเหตุที่ว่า บ้านเมืองยุคนี้สงบสุข ไพร่ฟ้าหน้าใส เพราะ “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” สตรีไทยส่วนใหญ่จึงไม่ต้องตกอยู่ในสภาวะ “มือก็ไกวดาบก็แกว่ง” ก็เลยมีเวลามากพอที่จะดูแล บำรุงส้นผมได้ตามถนัดกว่ายุคอื่น ๆ

เมื่อถึงอยุธยาแรกเริ่ม หญิงไทยที่แต่งตัวตามกฎมนเทียรบาล กำหนด จะเป็นลักษณะ “เมียนา ๑๐,๐๐๐ หัวเมืองทั้ง ๔ เมื่องานใส่เศียรเพชรมวย นุ่งแพร เมียจตุสดมภ์ เกล้าหนูนยิก เกี้ยวแซม เสื้อนุ่งแพร”ซึ่งเป็นการแต่งตัวของข้าราชการผู้ใหญ่ และพวกผู้ดีมีสกุล

ช่วงอยุธยาตอนกลาง มีการรบกับพม่า สตรียังคงไว้ผมสูงที่เรียกกันว่า ผมทรงกระโดง เป็นการรวบผมขึ้นไปเกล้าไว้บนขม่อม เป็นห่วงยาว ๆ มีเกี้ยวหรือพวงมาลัยสวมทับ เป็นการแต่งตัวตามที่กำหนดไว้ในกฎมนเทียรบาลเหมือนอยุธยาตอนต้น ซึ่งมีหลักฐานปรากฏในพระราชพิธีสิบสองเดือน ในพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจุลเจ้าเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วย เมื่อรบกับพม่าบ่อยขึ้นจึงมีการตัดเกรียนมหาดไทย

จนถึงยุคอยุธยาตอนปลาย คนต้องรบพุ่งกับศัตรูแผ่นดิน ทั้งชายหญิง จึงต้องตัดผมสั้นเกรียนเหมือน ๆ กัน เพื่อปลอมตัวเป็นชาย และเพื่อหนีภัยสงครามได้สะดวกปลอดภัย

สตรียุครัตนโกสินทร์ ผมยังตัดไว้เชิงสั้นอยู่  เป็นชั้นๆ ปล่อยปลายผมประบ่า ๒ ข้าง เป็นการแต่งตัวตามที่กำหนดไว้ตามกฎมนเทียรบาลชายจึงตัดผมสั้นเกรียนบางครั้งอาจทัดดอกไม้ข้างหู เรียกว่า “จอนหู”สตรียุครัตนโกสินทร์บางคนไว้ผมยาวเฉพาะกลางศีรษะคล้ายผมมหาดไทยของชาย

ในรัชกาลที่ ๔ ทรงไว้ผมแบบสมัยใหม่แบบฝรั่งตะวันตกจนถึงรัชกาลที่ ๕ พระประยูรวงศ์เมื่อครั้งยังเป็นเจ้าจอมมารดาแพร เป็นผู้นำในการไว้ผมยาวเป็นคนแรกจนแพร่หลายมาสู่ประชาชน

สมัยรัชกาลที่ ๖ จะไว้ผมโป่ง แบบญี่ปุ่นคือรวบข้างหลังไว้ที่ต้นคอ แล้วปล่อยยาวข้างหลัง แล้วกลายมาเป็นผมยาวดัดเป็นลอนในสมัยรัชกาลที่ ๗

ทรงผมไทยในยุคปัจจุบัน ได้รับอิทธพลจากแฟชั่นด้วยเหตุที่การสื่อสารก้าวหน้ามากขึ้นก่อให้เกิดทรงผมต่างๆ มากมาย เช่น ผมบ๊อบ หน้าม้า  ตัดเป็นคลื่น  ข้างหลังยาวแค่คอ ตวัดปลายผมมาไว้ข้างแก้มทั้งสอง อีกแบบคือตัดให้เตียนถึงหู เหลือไว้เล็กน้อยด้านหลังไถขึ้นไปถึงท้ายทอย นอกนั้นก็มีทรงทวิกกี้ รากไทร แอร์ไร ตัดลอน ตัดหยิกทั้งหัว ทรงสวอนที่ปลายผมตวัดงอนออก หรือทรงม้อดที่ปลายผมงองุ้มเข้า  

ปัจจุบัน ทรงผมมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกตามความพอใจ ขณะนี้กำลังนิยมการทำผมให้เป็นสีต่าง ๆ ดูแปลกตา น่าตื่นใจดีไม่ใช่เล่น เมื่อไรแฟชั่นนี้จะเลิกราเสียที บ้านไหนบ้านนั้น ที่เปิดศึกวิวาทกัน ระหว่างพ่อแม่กับลูกวัยกระเตาะ ก็เรื่องผมนี่แหละ เชื่อแม่เม้าเถอะ เฮ้อ ! คิดแล้วเหนื่อยแทน
 

  
สมาชิกใหม่ทุกท่าน >>> กดที่นี่

ท่านเป็นเช่นนี้หรือไม่ ?
1 login ... เข้าเวป
2 หาเพลงโหลด
3 มีให้โหลด ตอบเพื่อโหลด ไม่มีให้โหลด ไปข้อ4
4 logout ... ไปดีกว่า
อา-ราย-หว่า ???

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 23, 2011, 09:29:08 PM โดย NONGNA » บันทึกการเข้า

สวัสดีค่ะคุณผู้เยี่ยมชมยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
สะบันงา
มีสูง..มีต่ำ..เรื่องธรรมดา..
ปลดออกจากสมาชิก


คำขอบคุณ: 2740
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 885
สมาชิก ID: 1734


Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 24 : Exp 15%
HP: 0%

บนเวทีละครชีวิต ไม่มีใครได้รับแจกบทการแสดงล่วงหน้า


« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2011, 05:23:21 PM »

ขอบคุณที่นำมาให้อ่าน  :sorriso2:แต่แหม..ถ้ามีภาพด้วยก็คงจะดีนะคะ :65Ra:
สมาชิกใหม่ทุกท่าน >>> กดที่นี่

ท่านเป็นเช่นนี้หรือไม่ ?
1 login ... เข้าเวป
2 หาเพลงโหลด
3 มีให้โหลด ตอบเพื่อโหลด ไม่มีให้โหลด ไปข้อ4
4 logout ... ไปดีกว่า
อา-ราย-หว่า ???

บันทึกการเข้า

.. ทุกชีวิตดิ้นรนค้นหาแต่จุดหมาย .... "ใจ"ในร่างกายกลับไม่เจอ ..
 ทุกข์ที่เกิดซ้ำเพราะใจนำพร่ำเพ้อ .. หา"หัวใจ"ให้เจอก็เป็นสุข
หน้า: [1]
 
 
กระโดดไป:  






Saisampan.net
สายสัมพันธ์ - เพลงลูกทุ่งเก่า (เก่ากว่าที่ท่านคิด)
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!