กินผักได้ประโยชน์
อาหารไทยการปรุงอาหารซึ่งเป็นภูมิปัญญาไทยมากมายหลากหลายชนิดอาหารแต่ละภาคก็มีความอร่อย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งอาหารแต่ละชนิดจะมีผักเป็นองค์ประกอบ ทำให้เกิดความอร่อยและมีคุณค่าต่อร่างการ ซึ่งการเลือกรับประทานอาหารให้ครบถ้วนก็จะทำให้สุขภาพดี จึงขอแนะนำผักและคุณค่าในการเลือกรับประทานดังนี้
กุยช่าย กุยช่ายผักใบเขียว กลิ่นแรง ยอดนิยมเสน่ห์ของกุ่ยช่ายจึงอยู่ที่กลิ่น มีคุณค่าทางอาหารสูง ทั้งเบต้า-แคโรทีน ที่ร่างการเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ แล้วจะช่วยป้องกันมะเร็ง เหล็กที่ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง ให้พลังงานสูงโปรตีน แคลเซียม คาร์โบไฮเดรต ฟอสฟอรัสมีวิตามินสูง และมีกากใย ช่วยในการย่อยอาหารลดโอกาส เกิดมะเร็งในลำไส้ใหญ่ได้อย่างยอดเยี่ยม กระเจี๊ยบเขียว ผักที่คนไทยควรกินเพราะอาหารผักที่รักษาความดันโลหิตให้เป็นปกติ ช่วยบำรุงสมองแล้ว ยังมีวิตามิน และเกลือแร่อีกหลายชนิด เมือกกระเจี๊ยบจะช่วยหล่อลื่นเคลือบ และบรรเทาการระคายเคืองเยื่อหุ้มกระเพาะ หรือลำไส้อักเสบ และยังช่วยขับไล่พยาธิตัวจี๊ด ที่มากับอาหารพวกเนื้อแถมยังเป็นยาระบายอ่อนๆอีกด้วย กระชาย กระชายหรือโสมไทย เป็นทั้งผัก และสมุนไพร คนไทยไม่นิยมเป็นอาหารหลัก สารอาหารที่พบมากในราก และ เหง้าของกระชายคือแคลเซียม และ วิตามินเอ นำราก หรือเหง้ามาต้มกับน้ำ ดื่มช่วยขับลมได้ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่น และแก้อาการปวดมวลในท้อง ขับระดูขาว ขับปัสสาวะ บำรุงหัวใจ กระถิน เป็นผักพื้นบ้านที่คุ้นเคยกับคนไทยดี เรามียอดกระถิน กินกับน้ำพริก ให้พลังงานสูง ให้โปรตีน และแคลเซียมมาก กระถินมีเบต้า-แคโรทีนมากกว่า กะหล่ำปลีถึง 60 เท่า แต่ไม่ควรกินทั้ง 3 มื้อควรกินสลับกับผักอื่น ควรกินผักให้สม่ำเสมอ เพื่อตัวเราเองและคนที่เรารัก อย่าให้ใครต้องร้องไห้ เพราะโรคหัวใจและโรคมะเร็งมาพรากเราที่เขารักไปอีกเลย กระเทียม เป็นทั้งผักและยา ให้พลังงานและฟอสฟอรัสสูง สรรพคุณเลิศล้ำ ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจ และ หลอดเลือดป้องกันเลือดจับตัว เป็นลิ่มป้องกันหัวใจขาดเลือด หรือเกิดอุดตัน ลดระดับไขมันในเลือด ในกระเทียมดอง สามารถรักษาสารอัลลิซินไว้ได้นาน สารนี้จะทำให้ระดับของโคเลสเตอรอลในเลือดลดลง โดยเฉพาะในผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง และยังใช้เป็นยาชูกำลัง กล้วย มีความสำคัญและมีประโยชน์มากมายตั้งแต่ด้านการใช้สอยความเชื่อพิธีกรรม และประโยชน์ทางคุณค่าอาหารทั้งยังเป็นยารักษาโรคอีกด้วย กล้วยน้ำว้าให้พลังงานมากที่สุด รองลงมาคือกล้วยไข่ และกล้วยหอม ตามลำดับกล้วยยังมีโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ และวิตามินซีสูงป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน สตรีที่คลอดบุตรใหม่ๆใช้หัวปลีเป็นอาหารช่วยบำรุงน้ำนมให้มีมาก ส่วนลูกเมื่ออายุ 3 เดือนแม่ก็เริ่มให้กินข้าวบดกับกล้วยน้ำว้า ใครที่ท้องผูกเป็นประจำให้กินกล้วยเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง จะช่วยไม่ให้ท้องผูกระบบขับถ่ายจะดี ถ้าท้องเสียให้กินกล้วยดิบหรือกล้วยห่ามครั้งละครึ่งถึงหนึ่งลูกกินกล้วยสุกช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอและเจ็บหน้าอก ที่มีอาการไอแห้งร่วมด้วยได้ให้กินวันละ 4-6 ลูกถ้าต้องการไม่ให้มีกลิ่นปากและผิวพรรณดี ให้กินกล้วยน้ำว้าหลังตื่นนอนแล้วค่อยแปรงฟันทำอย่างนี้สัก 1 สัปดาห์ กลิ่นปากจะหายไป ผิวพรรณก็ดีด้วยหัวปลีให้วิตามินสูง ได้ทั้งแคลเซียมโปรตีนและกากใยอาหาร กินกล้วยทุกวันอย่างน้อยวันละ 1 ลูกเพื่อสุขภาพที่ดี กะเพรา เป็นผักสารพัดประโยชน์สำหรับคนไทย ใช้ได้ทั้งกินทั้งทา กะเพรามี 2 ชนิดคือ กะเพราแดงและกะเพราขาว กะเพราแดงมีรสชาติ และกลิ่นร้อนแรงกว่าช่วยเรียกน้ำย่อยได้ดี ให้พลังงานสูง กะเพรามีเบต้า-แคโรทีนสูง ช่วยป้องกันมะเร็ง และโรคหัวใจขาดเลือด และยังให้แคลเซียมและฟอสฟอรัส ในปริมาณที่สูง ช่วยบำรุงให้กระดูกแข็งแรง ยอดกะเพราอ่อนๆ ลวกน้ำร้อนพอสลบใช้จิ้มน้ำพริก จะได้รับสารอาหารทั้งหลายมาก ใครที่เกิดอาการอึดอัด ไม่สบายท้องท้องอืดท้องเฟ้อ หรือจุกเสียดให้ใช้ใบกะเพราสักหยิบมือ ชงในน้ำร้อนแล้วดื่มสักพัก อาการดังกล่าวจะค่อยๆ ทุเลาลงและจะขับลมออกมา สำหรับหญิงแม่ลูกอ่อนหลังคลอดให้กินกะเพรามากๆ จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่ กะหล่ำปลี กะหล่ำปลีสดมีวิตามินสูง ให้โปรตีน คาร์โบไฮเดรท ฟอสฟอรัส และเบต้า-แคโรทีน สารที่ช่วยป้องกันมะเร็ง กวางตุ้ง กินได้ทั้งต้ม ลวก ผัด แต่ตอนต้มต้องเปิดฝาเวลาตั้งไฟ เพื่อความอร่อยและปลอดภัย ผักกวางตุ้งกินแล้ว ได้โปรตีน คาร์โบไฮเดรท แคลเซียม วิตามินซีและเบต้า-แคโรทีน ขมิ้น กินเป็นเครื่องเคียงของน้ำพริกให้สารอาหารฟอสฟอรัสและธาตุเหล็กที่สำคัญ ในขมิ้นมีสารออกฤทธิ์ป้องกันมะเร็งได้ จนมีผู้นำไปทำเป็นยาเม็ดขาย น้ำต้มขมิ้นมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำดี ใช้รักษาอาการเป็นนิ่วในถุงน้ำดี รวมทั้งโรคกระเพาะอาหาร ขิง เป็นทั้งอาหารและยา สรรพคุณทางยามีมากมาย สุดแต่ใช้คนที่กำลังเป็นหวัดเย็นที่เกิดจากความเย็นของอากาศที่เปลียนแปลง คือรู้สึกหนาวมีไข้ต่ำไม่ค่อยมีเหงื่อ เสมหะเหลวใส ให้ดื่มน้ำต้มขิงร้อนๆ แล้วจะหาย ส่วนหวัดร้อนคือหวัดที่เกิดจากความร้อนจะปวดหัวตัวร้อน เหงื่อออก คอแห้ง เจ็บคอ เสมหะเหนียวข้น สีออกเหลือง ห้ามดื่มน้ำขิงเพราะจะทำให้ทรุดลงไปอีก อาการผิดปกติของระบบทางเดินหายใจเช่น คัดจมูก หรือเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารเช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่น จุกเสียด ให้ดื่มน้ำขิงแก่ๆ จะช่วยให้ทุเลาได้ ช่วยขับลม