เพลงไทยสากลทำนองไทยเดิม “สังคีตประสาน”

[woraphon]

 
เพลงไทยสากลที่ดัดแปลงทำนองมาจากเพลงไทยเดิมบางเพลง นอกจากจะนำทำนองมาจากเพลงไทยเดิมแล้ว ยังมีการนำเอาดนตรีไทยเดิมไปบรรเลงผสมผสานกับดนตรีสากลอีกด้วย ซึ่งทำให้เกิดความไพเราะของเพลงขึ้นในอีกรูปแบบหนึ่ง การบรรเลงดนตรีไทยผสมกับดนตรีสากลนี้ ผมขอตั้งชื่อว่า “สังคีตประสาน” ก็แล้วกัน สาเหตุที่ต้องตั้งชื่อใหม่ก็เพราะมีรูปแบบย่อย ๆ ของการบรรเลงดนตรีไทยผสมกับดนตรีสากลในเพลงไทยสากลอยู่ ๒ รูปแบบ คือรูปแบบ “สังคีตประยุกต์” กับรูปแบบ “สังคีตสัมพันธ์”

[woraphon]

 
“สังคีตประยุกต์” เป็นรูปแบบการบรรเลงเพลงไทยสากลโดยใช้ดนตรีไทยเล่นสลับกับดนตรีสากล เป็นผลงานจากความริเริ่มของครูสมาน กาญจนะผลิน ส่วน “สังคีตสัมพันธ์” เป็นรูปแบบการบรรเลงเพลงไทยสากลโดยให้ดนตรีไทยเล่นพร้อมกันไปกับดนตรีสากล เป็นความคิดริเริ่มของพลโท หม่อมหลวงขาบ กุญชร อดีตอธิบดีกรมโฆษณาการ (กรมประชาสัมพันธ์) โดยมีครูเอื้อ สุนทรสนาน เป็นผู้ดำเนินการ
 

[woraphon]

 
ครูสมาน กาญจนะผลิน (พ.ศ. ๒๔๖๔-๒๕๓๘ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ประจำปี พ.ศ. ๒๕๓๑) สืบเชื้อสายนักดนตรีไทยจากบิดาคือหมื่นคนธรรพ์ประสิทธิสาร (แตะ กาญจนะผลิน) ซึ่งเป็นหัวหน้าวงดนตรีไทย และมีพี่ชายเป็นนักดนตรีไทยมีชื่อเสียงคือครูพริ้ง กาญจนะผลิน ครูสมานเรียนดนตรีจากครูที่มีชื่อเสียงเช่น ครูมนตรี ตราโมท พระเจนดุริยางค์ และครูพริ้ง กาญจนะผลินซึ่งเป็นพี่ชาย ครูสมานเคยรับราชการกรมศิลปากร ตั้งวงดนตรีกาญจนศิลป์ เป็นนักดนตรีวงดนตรีประสานมิตร เป็นหัวหน้าวงดนตรีธนาคารออมสิน และหัวหน้าวงดนตรีโรงงานยาสูบ มีความสามารถด้านการแต่งทำนองเพลงและเรียบเรียงเสียงประสาน จึงมีผลงานการแต่งทำนองเพลงไทยสากลประเภทลูกกรุงไว้ประมาณ ๒,๐๐๐ เพลง เคยได้รับพระราชทานรางวัลแผ่นเสียงทองคำ ๙ รางวัล ได้รับเหรียญพระปรมาภิไธย ภปร. รางวัลเสาอากาศทองคำ รางวัลสังข์เงิน และรางวัลอื่นๆ อีกเป็นอันมาก จนได้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล) ประจำปี พ.ศ.๒๕๓๑ เพลงที่ครูสมานแต่งทำนองแล้วโด่งดังมากได้แก่เพลงสดุดีมหาราชา หยาดเพชร เรือนแพ ท่าฉลอม แสนแสบ ยามชัง ทุ่งรวงทอง รักคุณเข้าแล้ว เป็นต้น
 
ครูสมานได้ริเริ่มการบรรเลงเพลงไทยสากลที่ดัดแปลงทำนองมาจากเพลงไทยในรูปแบบใหม่ที่ให้ดนตรีสากลบรรเลงสลับกับดนตรีไทย แทนการบรรเลงเพลงด้วยเครื่องดนตรีสากลล้วน ๆ  ซึ่งให้ลีลาอารมณ์ที่แปลกแตกต่างกันออกไปจากรูปแบบเดิม สร้างบรรยากาศที่น่าสนใจน่าชมน่าฟังโดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบดนตรีไทย วิธีการแบบนี้ สุวัฒน์ วรดิลก (รพีพร) เป็นผู้ตั้งชื่อให้ว่า “สังคีตประยุกต์” โดยเพลงแรกที่ครูสมาน กาญจนะผลินแต่งทำนองและเรียบเรียงเสียงประสานแบบสังคีตประยุกต์คือเพลง “วิหคเหินลม” เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๔๙๔ เพลงวิหคเหินลมดัดแปลงทำนองมาจากเพลงลาวดอย (หรือลาวลอดค่าย) สุนทรียา ณ เวียงกาญจน์ แต่งเนื้อร้อง ขับร้องโดยเพ็ญศรี พุ่มชูศรี ต่อมายังได้เรียบเรียงเสียงประสานแบบสังคีตประยุกต์สำหรับเพลงซึ่งมิได้ดัดแปลงทำนองมาจากเพลงไทยอีกด้วย

[woraphon]

 
“สังคีตสัมพันธ์” เกิดจากความคิดริเริ่มของพลโท หม่อมหลวงขาบ กุญชร อดีตอธิบดีกรมโฆษณาการ (กรมประชาสัมพันธ์) ที่ต้องการให้วงดนตรีสากลประเภทหัสดนตรี และวงดนตรีไทยของกรมประชาสัมพันธ์บรรเลงร่วมกันได้ด้วยเสียงที่ผสมกลมกลืนไพเราะ มีความเป็นไทยผสมสากล จึงมอบหมายให้ครูเอื้อ สุนทรสนาน หัวหน้าวงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ

พลโท หม่อมหลวงขาบ กุญชร (พ.ศ. ๒๔๔๘-๒๕๒๙) เป็นบุตรคนที่ ๒๑ ของพันเอก เจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ (หม่อมราชวงศ์หลาน กุญชร) และหม่อมจันทร์ กุญชร ณ อยุธยา เคยดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหาร ทูตฝ่ายทหารประจำสหรัฐอเมริกา ปลัดกระทรวงกลาโหม อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และในทางการเมืองยังเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
 

[woraphon]

 
ครูเอื้อ สุนทรสนาน (พ.ศ. ๒๔๕๓-๒๕๒๔) หรือชื่อเดิม “ละออ” หรือ “บุญเอื้อ” ชื่อในการร้องเพลง “สุนทราภรณ์” เป็นอัจฉริยะด้านการแต่งทำนองเพลงและเรียบเรียงเสียงประสานเพลงไทยสากลอีกคนหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง จนทำให้เกิดประเภทย่อยของเพลงลูกกรุงซึ่งเป็นเพลงไทยสากลประเภทหนึ่ง ในชื่อ “เพลงสุนทราภรณ์” ที่มีกลุ่มคนนิยมชมชอบมาจนถึงปัจจุบัน

ครูเอื้อเป็นชาวจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นบุตรของนายดี นางแส สุนทรสนาน เรียนวิชาสามัญจบเพียงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ แต่มีความสามารถด้านการเรียนดนตรีสากล โดยเป็นลูกศิษย์ของพระเจนดุริยางค์ รับราชการในกรมมหรสพ สังกัดกระทรวงวัง กรมศิลปากร และกรมโฆษณาการ (กรมประชาสัมพันธ์) เป็นหัวหน้าวงดนตรีไทยฟิล์ม หัวหน้าวงดนตรีกรมโฆษณาการ (กรมประชาสัมพันธ์) และหัวหน้าวงดนตรีสุนทราภรณ์ เคยได้รับพระราชทานเหรียญรูปเสมาทองคำที่มีพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. รับพระราชทานโล่เกียรติยศในฐานะศิลปินตัวอย่างผู้ประพันธ์เพลงประจำปี พ.ศ. ๒๕๒๓-๒๕๒๔ ได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน ต่อมาองค์การยูเนสโกก็ได้ยกย่องครูเอื้อเป็นบุคคลสำคัญของโลกสาขาวัฒนธรรมดนตรีไทยสากล

นอกจากความสามารถด้านการแต่งเพลงแล้ว ครูเอื้อยังมีความสามารถด้านการขับร้องเพลงด้วยน้ำเสียงลีลาเฉพาะที่มีแฟนานุแฟน (แปลว่าแฟนรุ่นใหญ่รุ่นเล็ก คำศัพท์นี้เข้าใจว่ามีที่มาจากค่ายต่วยตูน) ชื่นชอบมากมาย และมีเอกลักษณ์เฉพาะคือการสีไวโอลินไปร้องเพลงไป จนมีเด็ก ๆ รุ่นก่อน ๆ นำมาเป็นปริศนาคำทาย (Riddle) กันว่า “สุนทราภรณ์ใส่สูทสีอะไร” ถ้าตอบว่าสีดำ สีกรมท่า ตัดสินว่าผิด ที่ถูกเฉลยว่า “สีไวโอลิน”

ครูเอื้อมีความสามารถด้านดนตรีไทยจึงแต่งทำนองเพลงโดยดัดแปลงทำนองมาจากเพลงไทยเป็นจำนวนมาก รวมทั้งเรียบเรียงเสียงประสานเพลงทั้งทำนองไทยและที่มิใช่ทำนองไทยให้มีแบบแผนการบรรเลงให้ดนตรีไทยเล่นเคล้าไปกับดนตรีสากลที่เรียกว่า “สังคีตสัมพันธ์”

เพลงแรกที่เรียบเรียงแบบสังคีตสัมพันธ์คือเพลง "กระแต" ดัดแปลงทำนองเพลงกระแตเล็ก ๒ ชั้น แก้ว อัจฉริยะกุล เป็นผู้แต่งคำร้อง วินัย จุลละบุษปะ และชวลี ช่วงวิทย์ เป็นผู้ขับร้อง

การดำเนินการตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๗ เป็นต้นมา มามีเพลงสังคีตสัมพันธ์จำนวน ๑๐๓ เพลง แบ่งเป็น ๔ ประเภท คือ เพลงที่นำทำนองและเนื้อร้องเพลงไทยมาใช้ทั้งหมด จำนวน ๕ เพลง เพลงที่นำทำนองเดิมจากเพลงไทย แล้วแต่งเพิ่มเติม จำนวน ๔ เพลง เพลงที่นำทำนองมาจากเพลงไทยทั้งหมด แต่ประพันธ์เนื้อร้องใหม่ จำนวน ๙๓ เพลง และเพลงที่ประพันธ์ทำนองและเนื้อร้องขึ้นใหม่ โดยมีลักษณะความเป็นเพลงไทยอยู่ในบทเพลง จำนวน ๑ เพลง” (ข้อมูลจากบทคัดย่อวิทยานิพนธ์เรื่อง “ดนตรีผสม "สังคีตสัมพันธ์" : กรณีศึกษาวงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์” ของกัณณพนต์ โยธินชัชวาล)
 

[woraphon]

 
ความยากลำบากของการบรรเลงแบบสังคีตประยุกต์และสังคีตสัมพันธ์คือต้องปรับบันไดเสียงของดนตรีไทยและสากลประเภทให้ลงอยู่ในระดับเสียงที่ใกล้เคียงกันมากที่สุดเช่นให้ดนตรีไทยเล่นทางเพียงออบน ให้ดนตรีสากลเล่นคีย์บีแฟลต ทั้งนี้เพราะเมื่อเทียบเคียงกันแล้วระดับเสียงดนตรีสากลสูงกว่าระดับเสียงดนตรีไทยประมาณ ๑ เสียง หรืออีกทางหนึ่งต้องตั้งเสียงเครื่องดนตรีไทยให้สูงเท่าดนตรีสากล แต่ถึงอย่างไรเนื่องจากระบบเสียงของดนตรีไทยกับดนตรีสากลไม่เหมือนกันกล่าวคือ ดนตรีไทยเป็นระบบ ๗ เสียงเต็ม ดนตรีสากลเป็นระบบ ๕ เสียงเต็ม ๒ เสียงครึ่ง การบรรเลงด้วยกันจึงยังไม่แนบสนิทอยู่ดี ในปัจจุบันจึงมีการประดิษฐ์เครื่องดนตรีไทยระบบเสียงสากลขึ้นใช้เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว

ปัจจุบันนี้ ยังมีผู้เรียบเรียงเสียงประสานบางคนยังคงเรียบเรียงเสียงประสานให้ดนตรีไทยเล่นประสานกันกับดนตรีสากลในเพลงไทยสากลอยู่พอสมควร ทั้งที่เป็นเพลงไทยสากลที่มีทำนองมาจากเพลงไทยเดิม หรือที่มิใช่ทำนองไทยเดิม แต่ก็เหมาะสมที่จะให้ดนตรีไทยบรรเลงร่วมหรือโซโล ในรูปแบบที่ผลัดกันเล่นแบบ “สังคีตประยุกต์” หรือเล่นพร้อมกันไปแบบ “สังคีตสัมพันธ์” หรือใช้ทั้งสองรูปแบบ แต่ไม่ค่อยมีใครเอ่ยถึงที่มาหรือต้นตอ หรือกล่าวขานถึง “สังคีตประยุกต์” หรือ “สังคีตสัมพันธ์” กันเลย

บันทึก “เพลงไทยสากลทำนองไทยเดิม “สังคีตประสาน”” จึงขอน้อมคารวะครูสมาน กาญจนะผลิน พลโท หม่อมหลวงขาบ กุญชร และครูเอื้อ สุนทรสนาน ผู้ริเริ่มสร้างสรรค์รูปแบบเพลงดังกล่าว และขอบันทึกประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของเพลงไทยสากลไว้เพื่อให้คนไทยได้รู้จัก รู้จำ เริงสำราญกับ “สังคีตประสาน” ตลอดไป
 

[woraphon]

 
“วิหคเหินลม” เพลงสังคีตประยุกต์เพลงแรก

เพลงวิหคเหินลม คำร้องโดยสุนทรียา ณ เวียงกาญจน์ ทำนองโดยสมาน กาญจนะผลิน ดัดแปลงทำนองเพลงไทยเดิม “ลาวดอย” หรือ “ลาวลอดค่าย” เรียบเรียงเสียงประสานแบบสังคีตประยุกต์ โดยสมาน กาญจนะผลิน ซึ่งนับเป็นเพลงสังคีตประยุกต์เพลงแรกของวงการเพลงไทยสากล บันทึกเสียงครั้งแรก พ.ศ. ๒๔๙๔ โดยเพ็ญศรี พุ่มชูศรี

“แสนสุขสมนั่งชมวิหค อยากเป็นนกเหลือเกิน นกหนอนกเจ้าหกเจ้าเหิน ทั้งวันนกเจ้าคงเพลิน เหินลอยละลิ่วล่องลม
แม้นเป็นนกได้ ดังใจจินตนา ฉันคงเริงร่าลอยลม ขอเพียงเชยชม ทั่วท้องนภา ให้สุดขอบฟ้า สุขาวดี ฉิมพลีวิมานเมืองฟ้า ค่ำคืนจะทนฝืนบิน เหินไปทั่วถิ่นที่มันมีดารา เพราะว่าอยากจะรู้ เป็นนักเป็นหนา ดาราพริบตาอยู่ไย ยั่วเย้ากระเซ้าหรือไร หรือดาวเกี้ยวใคร เหตุใดดาวจึงซน”

เพ็ญศรี พุ่มชูศรี ขับร้อง เรียบเรียงเสียงประสานแบบสังคีตประยุกต์ แสดงความคิดเห็นหน่อยค่ะ  
เพ็ญศรี พุ่มชูศรี ขับร้องบันทึกเสียงครั้งหลัง เรียบเรียงเสียงประสานแบบไทยสากลล้วน แสดงความคิดเห็นหน่อยค่ะ  

หมายเหตุ ลิงค์เพลงที่เชื่อมโยงไว้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ท่านที่สนใจได้ฟังเพลงตามบันทึกเพื่อการศึกษาเรียนรู้เท่านั้น หากมีปัญหาเกี่ยวกับลิขสิทธิ์โปรดแจ้งเว็บมาสเตอร์ของเว็บที่ลิงค์

 

[woraphon]

 

“กระแต” เพลงสังคีตสัมพันธ์เพลงแรก

เมื่อพลโทหม่อมหลวงขาบ กุญชร ณ อยุธยา อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ดำริให้ครูเอื้อ สุนทรสนานทำเพลงที่ดัดแปลงทำนองมาจากเพลงไทยเดิมโดยให้มีดนตรีไทยบรรเลงร่วมกันกับดนตรีสากลที่เรียกว่า “สังคีตสัมพันธ์” นั้น ได้เลือกเพลงกระแตเล็กเป็นเพลงแรกที่บรรเลงในลักษณะสังคีตสัมพันธ์ ใช้ชื่อว่าเพลง “กระแต” โดยมีครูพุ่ม บาปุยะวาทย์ เป็นผู้บอกทำนองเพลง เอื้อ สุนทรสนาน เรียบเรียงทำนอง แก้ว อัจฉริยะกุล ประพันธ์คำร้อง วินัย จุลละบุษปะ-ชวลีย์ ช่วงวิทย์ ขับร้อง

"ชาย) น้องรักพี่เอยเจ้าอย่าเลยแรมรา เจ้านัดมาพี่ก็มาภิรมย์ เสียงเจ้าพลอดออดคำฉ่ำใจเชยชม รื่นรมย์อุรา
หญิง) สวนรักนี้เพลินใจ นั่งโคนไม้พักใจดีกว่า น้องจะหนุนตักพี่ ผ่อนฤดีเคยมา รักจะเพลินอุรา ใต้พฤกษาเย็นใจ
หญิง) อุ๊ย อะไร
ชาย) ไหนอะไร
หญิง) เห็นไวไว
ชาย) เอ๊ะ อะไร
หญิง) กระโดดได้ปราดเปรียว
ชาย) อ๋อ กระแตแน่เทียว เห็นประเดี๋ยวเดียวกระโดดหายไป
หญิง) พี่อย่าปราดเปรียวดังเช่นกระแต รักแล้วผันแปรแล่นโลดหนีไกล
ชาย) เพราะมิใช่กระแตพี่ไม่แปรดวงใจ รักเจ้ายิ่งกว่าใคร ทราบเอาไว้ดวงตา
หญิง) พี่อย่าเป็นเช่นกระแต
ชาย) จ๊ะ พี่ไม่เป็นเช่นกระแต
หญิง) รักแท้แน่ไฉน
ชาย) รักแท้แน่ใจ
หญิง) รักอย่าลุกโลดโดดไป"
 

วินัย จุลละบุษปะ-ชวลีย์ ช่วงวิทย์ ขับร้อง แสดงความคิดเห็นหน่อยค่ะ  

หมายเหตุ ลิงค์เพลงที่เชื่อมโยงไว้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ท่านที่สนใจได้ฟังเพลงตามบันทึกเพื่อการศึกษาเรียนรู้เท่านั้น หากมีปัญหาเกี่ยวกับลิขสิทธิ์โปรดแจ้งเว็บมาสเตอร์ของเว็บที่ลิงค์

 

[ดาวิกา]

อ่านหัวข้อนี้แล้ว พาให้กระจ่างกับคำว่า สังคึตประยุกต์ และสังคึตประสานได้ดีขึ้นค่ะ

 :001:ขอขอบพระคุณ คุณworaphon ที่นำความรู้และความเข้าใจ เกี่ยวกับแนวเพลง
และเกร็ดความรู้ เพลง ครูเพลง และทำนองเพลง
เป็นวิทยาทานแก่พวกเราชาวสายสัมพันธ์เป็นอย่างมากเลยค่ะ

[woraphon]

 
ต่อไปนี้จะแนะนำเพลงไทยสากลที่เป็นเพลง “สังคีตประสาน” ในรูปแบบ “สังคีตประยุกต์” หรือ “สังคีตสัมพันธ์” ตั้งแต่ยุคครูสมาน ครูเอื้อ ผู้ริเริ่มรูปแบบทั้งสอง จนกระทั่งเพลงในยุคปัจจุบันที่ยังคงนิยมเรียบเรียงเสียงประสานในแบบสังคีตประยุกต์หรือสังคีตสัมพันธ์ ที่สำคัญเพลงทั้งหมดล้วนดัดแปลงทำนองมาจากเพลงไทยเดิมทั้งสิ้น

เพลง “ไอ้หนุ่มเครื่องไฟ”

เพลงไอ้หนุ่มเครื่องไฟ เป็นเพลงลูกทุ่งที่ชลธี ธารทอง แต่ง โดยดัดแปลงทำนองเพลงไทยเดิม “กระต่ายเต้น” เรียบเรียงเสียงประสานแบบสังคีตสัมพันธ์

“เจียมใจหนอคนเครื่องไฟรับจ้าง เดินทางรับงานที่จ้างใกล้ไกล งานบุญหรืองานขึ้นบ้านใหม่ เต็มใจมุ่งไปรับใช้ทุกงาน
ราคาหาพอต่อรองกันได้ บางรายก็มาเรียกใช้ไหว้วาน ฮาเฮเพราะเป็นดีเจชาวบ้าน ชื่นบานเมื่อท่านได้ฟังเพลงด้วย
ขอมอบเพลงนี้ ให้แม่ครัวทุกคน น้ามาป้าอ้น น้องอุบลคนสวย ฝีมือแกงป่า ของน้าสำรวย ลูกสาวก็สวย แกงอร่อยถูกใจ
จำลาเพราะงานเลิกราแล้วนั่น จากกันแล้วอย่าลืมคนเครื่องไฟ มีงานแล้วคงได้พบกันใหม่ ฝากใจของคนเครื่องไฟไว้ด้วย”

เสรี รุ่งสว่าง ขับร้อง แสดงความคิดเห็นหน่อยค่ะ  

หมายเหตุ ลิงค์เพลงที่เชื่อมโยงไว้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ท่านที่สนใจได้ฟังเพลงตามบันทึกเพื่อการศึกษาเรียนรู้เท่านั้น หากมีปัญหาเกี่ยวกับลิขสิทธิ์โปรดแจ้งเว็บมาสเตอร์ของเว็บที่ลิงค์
 

[woraphon]

 

เพลงกรรมนำพา

เพลงกรรมนำพา ยังไม่มีข้อมูลผู้แต่ง ดัดแปลงทำนองเพลงไทยเดิม “กระแตเล็ก” เรียบเรียงเสียงประสานแบบ “สังคีตประยุกต์”

“เหมือนดังกรรมนำพา ฉันเกิดมาชาตินี้ ใจตรอมตรม เฝ้าขื่นขมชีวี ยิ่งคิดหวนครวญคร่ำ
ยิ่งช้ำชอกใจ หม่นไหม้เหลือดี เลยพานคอย น้อยใจเป็นไปได้เพียงนี้ มิมีใครปาน
อดสูอยู่ไปเพียงวันวัน เพียงฝืนตื้นตัน ฝากชีวิตมั่นดวงชะตา
ที่ว่าชั่วเจ็ดที แล้วดีก็ต้องเจ็ดหน ฉันฉันเองไม่เคยได้ดี กว่าเจ็ดทีจนเบื่อระอา คิดคิดไปดังคนไร้ค่า อยู่ไปยิ่งหวั่นทรมาน์ ฝืนทนจนกว่าดวงชีวาลับไป
โอ้อาลัยรักหักไม่หาย ฝังใจไม่หน่ายแรมรา ทั้งทูนทั้งเทิดบูชา
มอบใจกายาให้ไป รื่นสราญมินานเท่าใด ถึงได้สิ้นเคลือบแคลงแจ้งในใจ แท้เขามีมิรู้เท่าไร เรานั้นไซร้เพียงเดน”

ดาวใจ ไพจิตร ขับร้อง แสดงความคิดเห็นหน่อยค่ะ  

หมายเหตุ ลิงค์เพลงที่เชื่อมโยงไว้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ท่านที่สนใจได้ฟังเพลงตามบันทึกเพื่อการศึกษาเรียนรู้เท่านั้น หากมีปัญหาเกี่ยวกับลิขสิทธิ์โปรดแจ้งเว็บมาสเตอร์ของเว็บที่ลิงค์

 

[woraphon]

 

เพลง “เชือดกระแต”

เพลงเชือดกระแต พยงค์ มุกดา แต่ง ดัดแปลงทำนองเพลงไทยเดิม “กระแตเล็ก” เรียบเรียงประสานแบบสังคีตประยุกต์ รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส ขับร้อง

“สาวสวยสุดงามต้องมีความระวังตัว กลัวแสนกลัวเจอะผู้ชายแสนกล รู้ไม่ทันเหลี่ยมชายจะต้องอายผู้คน ก็ต้องดิ้นรน แม้นวิวาห์ชายใด หยั่งดูใจมิได้ทุกคน เพราะทีแรกอาจดีไม่มีเล่ห์มีกล แล้วไปพาลเสียคนขาดเหตุผลตอนปลาย
ยุงร้ายกว่าเสือ แต่ผู้ชายร้ายยิ่งเหลือยุงกับเสือยังอาย จับกระแตยากแค่ไหนก็ไม่เท่าผู้ชาย ลื่นยิ่งกว่าปลาไหล อย่าหลงละเมอวางใจ จะบอกหญิงไทยให้รู้วิธี ผัวกระแตเจ้าชู้ให้อยู่ดีกินดี เผลอเมื่อไรแอบมีพวกอีหนูอีตัว
จะปราบชายนอกใจ ให้อ่อนอยู่มือ พกกระเป๋าถือ ด้วยมีดทำครัว ข้างหน้าต่าง ห้องก็ต้องมีเคล็ด ขอให้เลี้ยงเป็ด สักสองสามตัว ก่อนจะเข้านอน เอามีดมาลับ แล้วเอาหมอนทับ เมื่อนอนหนุนหัว แล้วคุณผัวกระแตจะเลิกตอแหลเมามัว คิดกลัวเกรงกลับตัว กลับเป็นผัวคนดี”

รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส ขับร้อง แสดงความคิดเห็นหน่อยค่ะ  

หมายเหตุ ลิงค์เพลงที่เชื่อมโยงไว้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ท่านที่สนใจได้ฟังเพลงตามบันทึกเพื่อการศึกษาเรียนรู้เท่านั้น หากมีปัญหาเกี่ยวกับลิขสิทธิ์โปรดแจ้งเว็บมาสเตอร์ของเว็บที่ลิงค์

 

[woraphon]

 

เพลงสาวสุดสวย

เพลงสาวสุดสวย เลิศ ประสมทรัพย์ เป็นผู้แต่งเพลง "สาวสุดสวย" ให้วงสุนทราภรณ์ โดยนำทำนองมาจากเพลงเขมรทุบมะพร้าว ๒ ชั้น (หรือเพลงสาวสุดสวย ๒ ชั้น) ตั้งชื่อว่า "สาวสุดสวย" ขับร้องบันทึกเสียงเองคู่กับวรนุช อารีย์ เพลงนี้เรียบเรียงเสียงประสานแบบสังคีตสัมพันธ์ โดยให้ดนตรีไทยเล่นเคล้ากันไปกับดนตรีสากล นับเป็นเพลงอมตะเพลงหนึ่งของวงสุนทราภรณ์

เนื้อร้องเพลง "สาวสุดสวย"
“ช.) สาวสาวนั้นสุดจะสวย รูปร่างสำรวยเอวกลมสมหน้า รักน้องจึงต้องแลหา โปรดหน่อยขวัญตาหันมาทางพี่
ญ.) เบื่อวาจาไม่อยากพาที แม้ใครเชื่อวจีต้องตรมชีวัน อย่ามาวอนออดอ้อนรำพัน พบกันบ่อยทุกวันเกี้ยวกันทำไม
ช.) พี่หลงคอยตัวเจ้าด้วยรักรุมเร้าเศร้าในดวงใจ
ญ.) อย่าหวังเลยจะได้ ชาตินี้ชาติไหนห่างไกลในตา
ช.) พี่อุตส่าห์ไถนาทำไร่ พอมีเงินตั้งใจหมั้นแม่ขวัญตา จะสมัครรักไปจนกว่าจนวันตายไม่ลาเลิกและร้างกัน
ญ.) จริงหรือคะ
ช.) จริงซิจ๊ะ
ญ.) เชิญซิคะขอเชิญมาหมั้น ขอใจจงอย่าเหหันเปลี่ยนผันแปรไป
ช.) แต่วันนี้
ญ.) หมั้นวันนี้
ช.) แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีเงินให้  ขอยืมน้องก่อนเป็นไร ได้ไหมพุ่มพวง
ญ.) สาวสาวแสนเศร้าอุรา สิ้นสุขทุกคราน้ำตารินร่วง ร้อยลิ้นไม่สิ้นคำลวง เจ็บปวดถึงทรวงเขาลวงเราเล่น
ช.) อย่าอาวรณ์ อย่างอนเกินไป นิ่งเสียเถิดขวัญใจ โปรดใจเย็นๆ ไร่นามีมากมายแลเห็น ยกมาหมั้นแม่เนื้อเย็นให้เป็นประกัน อีกบ้านเรือนมีอยู่ ที่รักจงรู้เถิดดวงชีวัน
ญ.) ไม่สำคัญเลยนั่น พี่นี้แหละฉันต้องการตัวไป
ช.) สุดประหลาดเพราะวาสนาพี่ ในไมตรีเจ้ามี พี่คงสมใจ พี่จะอยู่ชิดชูเชยใกล้ กายและใจมอบไว้ให้เป็นขวัญตา
ญ.) อยู่กับน้อง
ช.) เป็นทาสน้อง
ญ.) อย่าจากน้องและไปไกลหน้า ขอจงมาช่วยทำนาเถิดหนาพี่ชาย
ช.) อ๋อ แบกคันไถ
ญ.) แหม ท่าไม่ไหว
ช.) พี่จะไถ ขวัญใจของง่าย
ญ.) ขอเชิญให้เลิศเป็นควายช่วยไปไถแทนเจ้าทุย
ช.) โธ่”

เลิศ ประสมทรัพย์-วรนุช อารีย์ ขับร้อง แสดงความคิดเห็นหน่อยค่ะ

หมายเหตุ ลิงค์เพลงที่เชื่อมโยงไว้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ท่านที่สนใจได้ฟังเพลงตามบันทึกเพื่อการศึกษาเรียนรู้เท่านั้น หากมีปัญหาเกี่ยวกับลิขสิทธิ์โปรดแจ้งเว็บมาสเตอร์ของเว็บที่ลิงค์

 

[woraphon]

 

เพลงกระท่อมรจนา

เพลงกระท่อมรจนา คำร้องโดย เกษม  ชื่นประดิษฐ์ ทำนองโดย สมาน  กาญจนะผลิน ดัดแปลงทำนองเพลงเขมรพวง ๓ ชั้น เรียบเรียงเสียงประสานแบบสังคีตประยุกต์
 
เนื้อร้องเพลงกระท่อมรจนา
“(ช) เราอยู่กระท่อมปลายนา ครองทับวิวาห์หอห้อง มีนวลน้องเป็นคู่ชีวา                   
(ญ) ดูดดื่มใจถึงจนแค่ไหนน้องไม่ว่า
(ช) โถขวัญตาพี่เห็นน้ำใจ
(ญ) จะอยู่แห่งไหนให้เรารักมั่น
(ช) ย่อมเป็นสวรรค์วิไล
(ญ) ถึงแม้ใครเย้ยเราหรือไรช่างเขา
(ช) เจ้าไม่อายหรือยอดชีวา
(ญ) ต้องอายใครไหนเล่าพี่จ๋า ใครว่าเรา
(ช) พี่ต่ำช้าโฉดเขลา ถึงกลัวน้องเจ้าระอา
(ญ) ใครใครเห็นเป็นเงาะป่า น้องก็บูชา ช่างใครอิจฉาเป็นไร
(ช) มีรจนา เป็นมิ่งขวัญชีวา ถึงแม้พี่เหนื่อยกลับมา เห็นหน้าก็ชื่นใจ
(ญ) มาออเซาะ หวังจะปะเหลาะอะไร ไหนลองเอ่ยวาจา
(ช) พี่เหนื่อยจากไร่กลับมา โอ้รจนาเนื้ออุ่น แม่คุณเห็นใจเถอะแก้วตา
(ญ) ออดจะเอาสิ่งใด                   
(ช) ขอเพียงให้หอมปรางกานดา
(ญ) อุ๊ยเจอหน้าแล้วเป็นไม่ได้         
(ช) มาหอมกันหน่อยนะ
(ญ) คอยเดี๋ยวเป็นไร                   
(ช) พี่ต้องขาดใจทันที
(ญ) มารยาจริงจริง                         
(ช) จริงจริงคนดี
(ญ) ลองตายดูซี                         
(ช) จะดียังไง
(ญ) รำคาญกวนใจ                       
(ช) ไยมารำคาญ
(ญ) ตามใจมานาน                       
(ช) นานทีเป็นไร
(ญ) อายใจจะตาย                       
(ช)  อายใครคนดี
(ญ) เร็วเร็วเข้าซี                           
(ช) ใจดีกระไร
(ญ) อายจังน้องกลัวใครจ้อง             
(ช) ใครอยากมอง ใครอยากจ้องก็ช่างใคร
(ญ) วาจาล้วนเอาแต่ได้                       
(ช) จุ๊จุ๊อย่าเอ็ดไป ชื่นใจอีกนิดทรามเชย
(ญ) ตายจริงน้องลืมแกงคั่ว มัวอุ่นไฟ   
(ช) คงไหม้แล้วอย่าห่วงเลย
(ญ) มัวเพลินน้ำคำพี่เอ่ย                 
(ช) เลยอดเลย ชวดเชยได้ลิ้มแกงคั่ว
(พร้อม) มัวพลอดกันจนลืมตัว เดี๋ยวเดียวแกงคั่วไหม้หมดเลย”
 

นริส อารีย์ - พูลศรี เจริญพงษ์ ขับร้อง แสดงความคิดเห็นหน่อยค่ะ

หมายเหตุ ลิงค์เพลงที่เชื่อมโยงไว้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ท่านที่สนใจได้ฟังเพลงตามบันทึกเพื่อการศึกษาเรียนรู้เท่านั้น หากมีปัญหาเกี่ยวกับลิขสิทธิ์โปรดแจ้งเว็บมาสเตอร์ของเว็บที่ลิงค์
 

[woraphon]

 

เพลงพุ่มพวงดวงใจ

เพลงพุ่มพวงดวงใจ เป็นเพลงของค่ายสุนทราภรณ์ คำร้องโดยสมศักดิ์ เทพานนท์ ทำนองโดย ธนิต ผลประเสริฐ ดัดแปลงทำนองเพลงเขมรพวง ๓ ชั้น เรียบเรียงแบบสังคีตสัมพันธ์                                                             
 
เนื้อร้องเพลงพุ่มพวงดวงใจ
“(ช) โอ้พุ่มพวงดวงใจ แสนงอนไปได้ ยิ้มกันนิดหน่อยเป็นไร ใจพี่อาวรณ์
(ญ) ก็ใครไหนเล่า เขาทำแสนงอน อย่ามาวอนเพราะเธองอนก่อน
(ช) พี่งอนกับใครไหนกัน
(ญ) พบเธอพาให้เคืองขุ่นใจ
(ช) เลือกหยิกเอาเอ้าหยิกตรงไหน
(ญ) ก็ไปควงคู่อยู่กับใคร ไปให้ไกลฉัน
(ช) พี่อุ่นใจกอดสาว จะไปให้หนาวไยกัน
(ญ) มีคนเขาคอยอยู่ พี่มียอดชู้รำพัน
(ช) พี่มีเพียงจอมขวัญ ทุกวันเรื่อยมา หวาน
(ญ) หวาน
(ช) ใจ
(ญ) ใจ
(ช) ของ
(ญ) ของ
(ช) พี่
(ญ) พี่ เดี๋ยวนี้คงไม่มี หวานกลายเป็นเหมือนยา คนใจคด น้ำพริกต้มผักหมดรส เธอจึงไม่แลหา
(ช) โอ้พุ่มพวงดวงตา หวานจริงยิ่งกว่า หวานใดใจเจ้าจำ
(ญ) ถ้าเชื่อคำคม เดี๋ยวจะต้องช้ำตรม ลมปากนี้เคยพร่ำ รัก
(ช) รัก
(ญ) จริง
(ช) จริง
(ญ) ใจ
(ช) ใจ
(ญ) มั่น
(ช) มั่น
(ช) จะให้พี่สาบาน ที่ไหนยอมทำ
(ญ) อย่าหลอก
(ช) ไม่หลอก
(ญ) จริงจริง
(ช) จริงจริง
(ญ) พนมมือ
(ช) พนมมือ
(ญ) ตามคำ
(ช) ตามคำ
(ญ) หญิง
(ช) หญิง
(ญ) ใด
(ช) ใด
(ญ) ไม่
(ช) ไม่
(ญ) เกี่ยว
(ช) เกี่ยว
(ญ) รัก
(ช) รัก
(ญ) เดียว
(ช) เดียว
(ญ) จน
(ช) จน
(ญ) ตาย
(ช) ตาย
(ญ) วันใดฉันลืมคำที่กล่าวมา ขอให้ฟ้าผ่าตาย
(ช) รุนแรงเหลือเกินเจ้า
(ญ) โธ่ เพื่อเราจะรักกันไม่หน่าย
(ช) วันใดฉันลืมคำที่กล่าวมา ขอให้ฟ้าฝ่าตาย
(ญ) รางวัลที่สาบานให้
(ช) ชื่นใจ ขอให้หอมปรางพุ่มพวง”

วินัย จุลละบุษปะ – ชวลีย์ ช่วงวิทย์ แสดงความคิดเห็นหน่อยค่ะ 

หมายเหตุ ลิงค์เพลงที่เชื่อมโยงไว้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ท่านที่สนใจได้ฟังเพลงตามบันทึกเพื่อการศึกษาเรียนรู้เท่านั้น หากมีปัญหาเกี่ยวกับลิขสิทธิ์โปรดแจ้งเว็บมาสเตอร์ของเว็บที่ลิงค์