ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
เมษายน 26, 2024, 08:38:20 AM

 


  หน้าแรก  • ช่วยเหลือ  • ค้นหา  • เข้าสู่ระบบ  • สมัครสมาชิก



สถานีวิทยุออนไลน์
สายสัมพันธ์





ท่านสามารถขอเพลงฟังได้
ที่กล่องขอเพลงด้านซ้ายมือ
แต่อาจไม่ได้รับฟังทุกเพลง
เนื่องจากจะรองรับเพลงตามขอ
ของสมาชิกภายในก่อน
หน้า: [1]
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ประมงสุดเจ๋งเพาะปลาทูครั้งแรกโลก !!!  (อ่าน 2614 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
prisana
ปลดออกจากสมาชิก


คำขอบคุณ: 5305
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1271
สมาชิก ID: 1256


Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 28 : Exp 97%
HP: 0%

อนุรักษ์บทเพลงดีมีคุณค่าให้คงอยู่คู่แผ่นดินสืบไป


« เมื่อ: มกราคม 14, 2012, 10:25:04 AM »

<a href="http://i153.photobucket.com/albums/s222/flash600/140.swf" target="_blank">http://i153.photobucket.com/albums/s222/flash600/140.swf</a>



ประมงสุดเจ๋งเพาะ‘ปลาทู’ครั้งแรกโลก (ไทยโพสต์)

          ทึ่ง! นักวิจัยกรมประมงเพาะพันธุ์ปลาทูสำเร็จครั้งแรกของโลก ใช้เวลาทดลอง 2 ปี จับพ่อแม่พันธุ์มาเพาะเลี้ยงในระบบปิด มีน้ำหมุนเวียน ปรับสภาพการเลี้ยงให้เหมาะสมกับระบบนิเวศในทะเล พบปลาทูวางไข่มากถึง 3 หมื่นฟอง หวังช่วยทดแทนการจับปลาทูมากเกินไป


          เมื่อวันที่ 11 มกราคม ดร.วิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากความต้องการปลาทูจำนวนมหาศาลนี้ ทำให้ชาวประมงมีการพัฒนาเครื่องมือการทำประมงปลาทูให้มีประสิทธิภาพในการจับที่สูงขึ้นจนเกินกำลังการผลิตของธรรมชาติ ส่งผลให้แนวโน้มของประชากรปลาทูในปัจจุบันเริ่มลดน้อยลง ที่ผ่านมากรมประมงได้ใช้มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยการห้ามจับปลาทูในฤดูวางไข่ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ถึง 15 พฤษภาคมของทุกปี ในเขตทะเลอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ถึงสุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นการอนุรักษ์พันธุ์ปลาทูในช่วงฤดูวางไข่


           "ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กรมประมงมีความพยายามในการศึกษาวิจัยการเพาะขยายพันธุ์ปลาทูเพื่อทดแทนการจับจากธรรมชาติ โดยได้วางแนวทางและกำหนดนโยบายให้นักวิชาการประมงผลิตงานวิจัยที่มีคุณภาพ เน้นการพัฒนาเทคนิคการเพาะเลี้ยงสัตว์ทะเลที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงและเป็นที่ต้องการของตลาด ล่าสุดศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งสมุทรสาครประสบความสำเร็จเพาะพันธุ์ปลาทูในระบบปิดได้เป็นครั้งแรกของโลก" อธิบดีกรมประมงเผย


          ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งสมุทรสาครริเริ่มการศึกษาวิจัยเพาะเลี้ยงปลาทู โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตปลาทูทดแทนการใช้ทรัพยากรจากแหล่งธรรมชาติอย่างเกินความพอดี แต่เนื่องจากปลาทูเป็นปลาที่มีความอ่อนแอ ใจเสาะ จึงเป็นเรื่องยากที่จะนำขึ้นจากทะเลมาเพาะเลี้ยง จึงต้องเริ่มดำเนินการจากการรวบรวมข้อมูลทางด้านชีววิทยา ฤดูกาลวางไข่ ลักษณะของนิเวศที่อยู่อาศัย ชนิดของอาหารที่พบในกระเพาะอาหารของปลาทู เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านวิชาการ และประยุกต์ในการผลิตปลาทูเชิงพาณิชย์ ด้วยการพัฒนาเทคนิคการเพาะเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ด้วยการให้อาหารที่มีคุณภาพและใช้ระบบน้ำหมุนเวียน


           น.ส.พรรณติยา ใจอ่อน นักวิชาการประมงปฏิบัติการ และทีมเพาะเลี้ยงปลาทู ศูนย์วิจัยและพัฒนาชายฝั่งสมุทรสาคร กรมประมง บอกว่า เลี้ยงปลาทูพ่อแม่พันธุ์ที่มีความสมบูรณ์แข็งแรงที่ได้มาจากทะเลในกระชังที่ขึงไว้ในบ่อดินนาน 6 เดือน จนปลาเติบโตถึงวัยเจริญพันธุ์ จึงย้ายปลาขึ้นมาเลี้ยงในถังเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ในโรงเพาะฟัก โดยให้อาหารสูตรเฉพาะของศูนย์ฯ และเลี้ยงในระบบกรองน้ำแบบชีวภาพด้วยเครื่องโปรตีนสกิมเมอร์ เพื่อให้ได้คุณภาพน้ำที่เหมาะสมปราศจากเมือกโปรตีนที่ตกค้าง มีการควบคุมความเค็มที่ระดับ 27-30 ส่วนใน 1,000 และควบคุมอุณหภูมิให้มีค่าคงที่อยู่ระหว่าง 29-32 องศา


 
         "จากความพยายามมานานกว่า 2 ปี ก็ได้เกิดผลสำเร็จขึ้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2554 โดยปลาทูได้วางไข่และสามารถอนุบาลในระบบปิดได้สำเร็จ ทั้งนี้ แม่ปลาทูวางไข่ครั้งละประมาณ 15,000-30,000 ฟอง และมีพฤติกรรมวางไข่แบบรวมฝูง แม่ปลาทั้งฝูงจะวางไข่เป็นระยะ ๆ ต่อเนื่องกันหลายวันไปจนหมดฤดูผสมพันธุ์" น.ส.พรรณติยา



           สำหรับไข่ของปลาทูเป็นแบบไข่ครึ่งจมครึ่งลอยน้ำ มีหยดน้ำมันและถุงไข่แดงเพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานให้กับระบบร่างกาย ไข่มีขนาดประมาณ 0.80 - 0.96 มิลลิเมตร ใช้ระยะเวลาในการฟักประมาณ 16-17 ชั่วโมง ถุงไข่แดงของลูกปลาเริ่มยุบและหมดไปภายใน 3 วัน ลูกปลาตั้งแต่วันแรกที่ฟักออกจากไข่ถึงอายุ 7 วัน อนุบาลด้วยแพลงก์ตอนที่ประกอบไปด้วยทั้งสาหร่ายสีเขียวและสีน้ำตาล ร่วมกับโรติเฟอร์ โคพิพอต และหลังจากนั้นลูกปลาจะสามารถกินอาร์ทีเมียแรกฟักและอาหารเม็ดได้



           สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-3485-7136 หรือ 0-3442-6220 ในวันเวลาราชการ
 



       ทั้งนี้ ปลาทูเป็นสัตว์น้ำซึ่งเป็นอาหารที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตของคนไทยมาช้านาน หลายคนคงคุ้นเคยกับการรับประทานปลาทูเป็นอย่างดี ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และคุณค่าทางโภชนาการที่มีอยู่มากมาย ทำให้ในแต่ละปีชาวประมงต้องจับปลาทูจากท้องทะเลไทยมากถึง 6 หมื่นตัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภค จึงต้องมีการออกไปจับเพิ่มจากน่านน้ำของประเทศเพื่อนบ้าน



           สำหรับในน่านน้ำไทยพบปลาทูได้ทั้งฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน ซึ่งมีอยู่ 3 ชนิด คือ 1.ปลาทู 2.ปลาลัง หรือปลาทูโม่ง และ 3.ปลาทูปากจิ้งจก โดยปลาที่ชาวประมงจับได้ส่วนใหญ่จะเป็นปลาทูและปลาลัง ซึ่งทั้งสองชนิดนี้มีรูปร่างลักษณะคล้ายคลึงกันมาก แต่ปลาทูตัวแบนกว้างกว่าปลาลัง และส่วนหัวความกว้างกับความยาวของหัวปลาทูจะเท่ากัน แต่หัวของปลาลังความยาวมากกว่าความกว้าง เมื่อโตเต็มที่ปลาลังจะมีขนาดใหญ่กว่าปลาทูมาก ชาวประมงจึงเรียกกันว่าปลาทูโม่ง ส่วนปลาทูปากจิ้งจกมีลำตัวเรียวยาว ซึ่งพบน้อยมาก



สมาชิกใหม่ทุกท่าน >>> กดที่นี่

ท่านเป็นเช่นนี้หรือไม่ ?
1 login ... เข้าเวป
2 หาเพลงโหลด
3 มีให้โหลด ตอบเพื่อโหลด ไม่มีให้โหลด ไปข้อ4
4 logout ... ไปดีกว่า
อา-ราย-หว่า ???

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
 
 
กระโดดไป:  






Saisampan.net
สายสัมพันธ์ - เพลงลูกทุ่งเก่า (เก่ากว่าที่ท่านคิด)
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!