ในจำนวนนักร้องที่ยึดแนวทางหรือว่าร่องเสียงแบบ ครูสุรพล สมบัติเจริญ นั้นมีกันอยู่หลายคน ประสบความสำเร็จบ้างมากน้อยแตกต่างกันไปตามสถานการณ์และจังหวะชีวิตของแต่ละ คน
แต่องค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้ตนเองยังคงยืนอยู่ บนเวทีได้ ไม่ใช่การร้องเพลงของครูได้ดีได้เหมือนเท่านั้น
สำคัญมากยิ่งกว่าคือจะต้องมีผลงานเป็นของตนเองด้วย และผลงานเพลงที่เป็นของตนเองก็จะต้องพิถีพิถันร้องจนประสบความสำเร็จ นั่นแหละจะทำให้ชื่อแซ่นักร้องคนนั้นได้รับการจารึกจดจำ
หนึ่งในเงาเสียงของครูสุรพล มีอยู่คนหนึ่งไม่ทราบว่า ถึงเวลานี้คุณจะจำเขาได้หรือไม่
เขาคือ ธงชัย นครราช
เด็กหนุ่มคนโคราชขนานแท้ผู้มีแต่ความอดทนเป็นที่ตั้ง และพยายามทำทุกอย่างเพื่อจะไขว่คว้าหาอนาคตให้ตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง
เขาเกิดที่ บ้านตะเคียน ตำบลตะเคียน อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา
คุณพ่อชื่อ วัน คุณแม่ชื่อ สาน นามสกุล ทุมขุนทด
เป็นลูกคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 7 คน มีชีวตอยู่ท่ามกลางความยากจนข้นแค้นแสนสาหัสและการศึกษาก็เป็นอุปสรรคสำหรับ เขา เพราะเขาไม่สามารถเรียนได้สูงๆ เหมือนลูกคนในเมือง
ทั้งหลาย อย่างดีก็เรียนได้แค่ ป.4 เท่านั้นเองจากโรงเรียนบ้านตะเคียน
เรียนจนจบ ป.4 แล้วแต่ก็ไม่ได้มีงานดีๆ ที่ไหนคอยรองรับ อาชีพแรกตั้งแต่วัยเยาว์ของเขาคือ รับจ้างเลี้ยงควาย
หนุ่มน้อยผู้เลือกเกิดไม่ได้ต้องอดทนรับจ้างเลี้ยงควาย อยู่ยาวนานถึง 3 ปีกว่าๆ หนทางชีวิตที่น่าจะดีขึ้นบ้างก็ปรากฏพอรางๆ เมื่อคุณพ่อได้คิดเปลี่ยนเส้นทางชีวิต
เดิมทีครอบครัวทุมขุนพด ได้หาเลี้ยงครอบครัวมาได้ด้วยการ ทำไร่มันสัมปะหลังแต่จำนวนสมาชิกในครอบครัวกับจำนวนพื้นนาพื้นไร่มันสวนทาง กันเลยไม่ค่อยจะพอกิน
พ่อวัน จึงตัดสินใจครั้งสำคัญ ด้วยการนำพาเจ้าลูกชายเข้ากรุงเทพฯ แล้วเอาไปฝากไว้กับเจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรส ย่านบางขุนพรหม แล้วบารมีของหลวงพ่อก็ฝากให้เจ้าหนุ่มน้อยคนด่านขุนทด
ได้งานทำงานแรกที่บริษัทบุ้นทวันก่อสร้าง
แน่นอนครับ ใครจะให้มันเป็นผู้จัดการสำหรับคนมีความรู้น้อยๆ แค่นั้น ชีวิตเขาจึงเริ่มจากแบกหาม แบกปูน แบกไม้ แบกหิน แบกทราย แม้จะหนักหนาอย่างยิ่งแต่เจ้าหนุ่มก็เต็มใจเพราะคิดว่า
ดีกว่าเลี้ยงควายอยู่บ้านนอก
ธงชัย นครราช กล้ำกลืนฝืนข่มเก็บงำความผิดหวังความเจ็บปวดเอาไว้ในอกตัวเอง ทำงานไปก็แอบร้องไห้ไป แม้ว่าจะต้องแบกหามหนักมากสักแค่ไหน แต่มันก็ไม่หนักใจเท่าการอยากร้องเพลงแล้วไม่ได้ร้อง
อย่างไรก็ดี คนดีผีคุ้ม พระเจ้าดูแล
เจ้าหนุ่มอาภัพโชคยังไม่ถึงขนาดอับจน เพราะน้ำเสียงของเขาที่มีเสน่ห์ ได้ชักพาให้มีคนรักและเมตตาอยู่ ผู้ศรัทธาในน้ำเสียงของเขานั่นก็ทำงานอยู่ใกล้ๆ กับ บริษัทบุ้นหวันก่อสร้าง นั่นแหละ
เขายอมลงทุนให้เจ้าหนุ่มด่านขุนทด ได้ลองอัดแผ่นเสียงดู
แล้วเพลงแรกในชีวิตเขาก็ปรากฏนั่นคือ เพลงลูกจ๋าพ่อลาก่อน
จากเพลงแรกที่แหวกกระแสขึ้นมาก็ทำให้เขามีโอกาสได้อัดแผ่น ต่ออีกหลายเพลง อาทิ มนต์รักหาดคอนจันทร์, ทันสมัย, หนุ่มท่าจีน, ลูกแดงอ่อน, แก้วตาแก้วใจ
เพลงเหล่านี้สร้างชื่อเสียงให้ ธงชัย นครราช เป็นอย่างยิ่ง หลายคนที่เป็นนักฟังเพลงก็คงพอยอมรับได้ว่าเสียงของเขาน่าฟังไม่น้อยเลย
ด้วยร่องเสียงที่ละม้ายคล้ายคลึงกับเสียงของ ครูสุรพล สมบัติเจริญ ทำให้เขาผงาดขึ้นมาในระดับแนวหน้าได้ไม่ยาก เพราะบารมีเสียงครูที่มีคนรักคนชอบมากทั่วประเทศ
เพลงของ อาจารย์หนุ่ม หนองรี ชื่อเพลงว่า คลุกกะปิ โดดเด่นขนาดได้เคยเข้ารอบสุดท้ายของการประกวดเพลงแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน เมื่อปี 2522
และเพลงดังสุดๆ อีกเพลงของเขาคือ ดอกท้อที่รัก ซึ่งเขามีโอกาสได้ทำงานร่วมกับ หมอเอื้อ อารีย์
มีชื่อขนาดนั้น ความมั่นใจก็เริ่มเกิด เลยตัดสินใจ ตั้งวง แต่น่าเสียดายเพราะงานเพลงของเขามันดังไม่สุด วงดนตรี ธงชัย นครราช เลยรับใช้แฟนเพลงได้เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นก็ต้องยุบวง
เขาไม่หมดกำลังใจ ไม่เลิกร้องเพลง เขาฝากตัวเข้าไปอยู่กับวง ไวพจน์ เพชรสุพรรณ อยู่ได้นานถึง 7 ปี ไวพจน์ก็ยุบวงอีก เขาจึงต้องไปอยู่กับวง พุ่มพวง ดวงจันทร์
ธงชัย นครราช หรือ นายบุญเที่ยง ทุมขุนทด หรือที่เพื่อนๆ เรียกเขาว่า ไอ้สอง มีผลงานบันทึกเสียงไม่ต่ำกว่า 40 เพลง ไม่น้อยเลย
มาถึงวันนี้ อย่าว่าแต่ชื่อเสียงของเขาจะหายไป เพลงของเขาก็ไม่เคยมีสถานีวิทยุคลื่นไหนทั้งใหญ่ และเล็กเคยหยิบแผ่นมาเปิดเลยสักเพลง อาจจะเพราะไม่รู้จัก หรือไม่มีแผ่นเสียงเลยก็เป็นได้
ธงชัย นครราช นักร้องร่องเสียงครู สุรพล สมบัติเจริญ ผสม ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ที่หลายคนลืมเขาไปแล้ว แต่ผมยังจำเขาได้เพราะในพิพิธภัณฑ์เพลงลูกทุ่งก็มีแผ่นเสียงเพลงของเขาอยู่ ซึ่งปัจจุบันไม่ได้ข่าวเลยว่าเขาทำอะไรอยู่ที่ไหนครับ ตายหรือยังก็ไม่รู้?