รวมเนื้อเพลงของ ศรคีรี ศรีประจวบ และเพลงแก้ไว้ครบทุกเพลงครับ.

<< < (4/8) > >>

กระต่าย:


เพลง ตะวันรอนที่หนองหาร
ขับร้องโดย ศรคีรี ศรีประจวบ
คำร้อง-ทำนอง พงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา

   โอ้ละเหนอ โอ้โอโอ้ละเหนอ ผู้สาวภูไทใช่มีแต่ที่เรณู
ได้ฮักและที่ได้ฮู้ คือสาวภูไทสกลนคร
ครั้งไปเที่ยวงานพระธาตุเชิงชุม ได้พบบังอร
เหมือนเคยร่วมบุญปางก่อน อยู่สุดขอบฟ้าก็มาพบพาน
     แดดอัสดง ค่ำลงที่ฝั่งหนองหาร
เฮาสองเคยเที่ยวด้วยกัน มนต์ฮักสายัณห์สวาทวาบหวาม
สายลมเฉื่อยฉิว ทิวสนลิ่วโอนสอดเสียงกังวาน
เหมือนเสียงใจเฮาสาบาน ให้หนองหารได้เป็นสักขี
     โอ้ละเหนอ หัวใจดังเหมือนต้องมนต์
ท้าวผาแดงและนางไอ่ดล ให้เจอน้อง ณ แดนแห่งนี้
วอนเจ้าช่วยคุ้ม ฮักยั่งยืนอย่าได้หน่ายหนี
เหมือนนิยายมีอยู่คู่หนองหาร คนขานกล่าวชม
     แดดอ่อนคราใด หัวใจพี่สั่นสะท้าน
คิดถึงเคยฮักผูกพัน คิดถึงหนองหารที่เคยรื่นรมย์
ความหลังฝั่งหนอง พี่เคยประคองนวลน้องแนบชม
หัวใจยังครางระงม โอ้แม่สาวสกลที่รัก...
 :007:

----------------------------------------------------
เพลง เดือนหมองที่หนองหาร
ขับร้องโดย จริยา จันทรุกขา
คำร้อง-ทำนอง พงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา
    
    โอ้ละหนอ โอ้โอโอ้ละหนอ ข้างขึ้นเดือนหงาย ณ ชายริมฝั่งหนองหาร
ลมหนาวโชยพัดผ่านผัน อกสาวจาบัลย์สั่นทรวงสะท้อน
เห็นเรือลำน้อย ลอยโต้คลื่นลมใจแสนอาวรณ์
เหมือนเฮาที่ฮักแรมจร เปลี่ยวอ้างว้างในกลางแสงเดือน
     บ่ลืมสายัณห์ วันนั้นเมื่อตะวันรอน
สัญญาก่อนที่จากจร สุดแสนอาวรณ์บ่เคยลืมเลือน
ทิวสนลิ่วลมหวิวคราง ดั่งคนคอยฮักกลับเยือน
คิดถึงวันเฮาเป็นเพื่อน เที่ยวหนองหารยามเย็นสุขใจ
     แต่วันนี้ไม่มีเหลือแม้แต่เงา หนาวลมเยือนดึกลมยิ่งหนาว
เหม่อมองเดือน ก้อนเมฆหม่นหมอง
รอคนเคยฮัก เคยผูกพันอยู่ริมฝั่งหนอง
ฮักเฮาเคยปอง เมื่อคราวงานปีที่แล้วผ่านมา
     โอ้คืนเดือนหมอง เหลียวมองเมฆหม่นทนหนาว
มองแล้วสะท้อนอกสาว คิดถึงคนไกลอยู่สุดขอบฟ้า
ความหลังฝั่งหนอง พี่เคยร่วมปองหน้าหนาวผ่านมา
พี่คงไม่ลืมสัญญา ปล่อยให้สาวสกลต้องคอย...
 :086:

กระต่าย:
เพลงนี้ สายัณห์ สัญญา นำมาร้องใหม่ได้เปลี่ยนชื่อเพลงนี้เป็น เสียงขลุ่ยเรียกนาง

เพลง เสียงขลุ่ยบ้านนา
ขับร้องโดย ศรคีรี ศรีประจวบ
คำร้อง-ทำนอง เกษม สุวรรณเมนะ

     เสียงขลุ่ยครวญ หวนมากับลม
พี่สะอื้นฝืนระทม ค่ำคืนฝืนข่มใจเหงา
ขลุ่ยครางครวญ พี่หวลคนึงถึงเจ้า
ฟังเสียงหริ่งหรีดเร้า พี่ยิ่งเศร้าไม่วาย
     น้องจากนา หายหน้าจากจร
สู่กรุงเทพมหานคร ตัดรอนมิตอบจดหมาย
ได้ข่าวดี เจ้าคว้าเทพีชาวไร่
ลืมรักเก่าเราไว้ สิ้นเยื่อใยลืมลง
     โอ้เจ้ากลอย ดาวน้อยบ้านนา
จากดอกหญ้า ไปเป็นดาราสูงส่ง
พี่พลอยปลื้ม ถึงน้องจะลืม พี่ลง
อย่าเริงหลง น้องเอ๋ยเจ้าจงระวัง
     หวิวไผ่คราง เคล้าลมอ่อนโอน
ต้นตาลเดี่ยวสุดฝืนยืนต้น ดั่งคนสูญสิ้นความหวัง
ขลุ่ยบรรเลง เจ้ารับฟังเพลงพี่บ้าง
กลอยเอ๋ยอย่าลาร้าง หนุ่มเดิมบางสุพรรณหลงคอย...
:086:

--------------------------------------------------
เพลงนี้ร้องแก้ เสียงขลุ่ยเรียกนาง ที่ สายัณห์ สัญญา ร้องไว้.

เพลง มนต์ขลังเสียงขลุ่ย
ขับร้องโดย วันเพ็ญ เดือนเต็มดวง

    เสียงขลุ่ยใจ ไหนครวญแผ่วมา
น้องสะอื้นฝืนน้ำตา จากนาได้ห้าหกเดือน
ขลุ่ยบรรเลง นึกถึงเพลงพี่เตือน
ใจเหมือนถูกใครเฉือน เหมือนเตือนให้กลับสุพรรณ
     ถึงอยู่ใกล หัวใจเลื่อนลอย
นึกถึงพี่นี้ยังคอย โอ้กลอยแสนสุดสงสาร
จะกลับไป เป็นขวัญใจถึงบ้าน
ฟังเสียงขลุ่ยแว่วหวาน อีกไม่นานจะไป
     พ่อยอดชาย เชื้อสายบ้านเรา
เหตุใดเล่า เจ้าน้ำตาไปได้
อยากจะดู ไม่รู้ว่าใครลืมใคร
อยู่ที่ไหน หัวใจก็ยังเหมือนเคย
     เหม็นฟองเบียร์ เคล้าเคลียเต้นรำ
ใจสะอื้นฝืนใจทำ กล้ำกลืนฝืนข่มนิ่งเฉย
เบื่อเมืองกรุง ยุ่งเหยิงหัวใจเหลือเอ่ย
ใครเขาจะเยาะเย้ย ไม่ว่าเลยขอคืนเดิมบาง...

กระต่าย:
เพลง มนต์รักแม่กลอง
ขับร้องโดย ศรคีรี ศรีประจวบ
คำร้อง-ทำนอง ไพบูลย์ บุตรขัน

     เจื้อยแจ้วแว่วเสียง สำเนียงขับร้อง
ดังเพลงมนต์รักแม่กลอง ล่องลอยพริ้วหวานซ่านมา
กล่อมสาวงามบ้านอัมพวา มนต์รักแม่กลองแว่วมา
เหมือนสายธารา แม่กลองรำพัน
     พี่ต้องจากลา ขวัญตานิ่มน้อง
ไม่ลืมลาสาวแม่กลอง ต้องครวญหวนมาสักวัน
กลิ่นเนื้อนางไม่จางสัมพันธ์ เราสองล่องเรือร่วมกัน
ร้องเพลงชมจันทร์ ลุ่มน้ำแม่กลอง
     ไม่ลืมน้ำใจไมตรี
สาวงามบ้านบางคณฑี เอื้ออารีเรียกร้อง
ให้ดื่มน้ำตาล พร้อมกับยิ้มหวานของนวลละออง
ก่อนลาจากสาวแม่กลอง เราร่วมปิดทองงานวัดบ้านแหลม
     เจื้อยแจ้วแว่วเสียง สำเนียงขับร้อง
คร่ำครวญลาสาวแม่กลอง ล่องลอยเมื่อคืนข้างแรม
กรุ่นหอมไอทะเลเคล้าแซม มนต์รักแม่กลองแทรกแซม
คิดถึงพวงแก้มนวลสาวแม่กลอง...
 :002:

กระต่าย:
เพลง หนุ่มกระเป๋า
ขับร้องโดย ศรคีรี ศรีประจวบ
คำร้อง-ทำนอง สุรินทร์ ภาคสิริ

    พี่เป็นหนุ่มกระเป๋ารถเมล์
ตื่นแต่เช้าร่อนเร่ รถเมล์รับส่งโดยสาร
เหน็ดเหนื่อยเพียงไหน กล้ำกลืนฝืนไปเพื่องาน
แอบปองรักนงคราญ แม่ค้าตาหวานขายข้าวแกง
     เพิ่งเป็นหนุ่มไม่เคยรักใคร
หอบความรักมาให้ ขวัญใจน้องอย่าหน่ายแหนง
ติดอกติดใจ เมื่อมาได้กินข้าวแกง
ปากจิ้มลิ้มแก้มแดง แม่ค้าข้าวแกงช่างสวยบาดใจ
     กระเป๋ารถเมล์ ไม่เหมือนลิเกตำรวจ
ศักดิ์ศรีไม่มีอ้างอวด อ่อนเชิงเกินไป
เห็นหน้าแม่ค้า ทุกๆคราสุดห้ามใจไหว
กลัวหนุ่มลูกค้ามือไว คว้าคนสวยไว้แนบกาย
     พี่เป็นหนุ่มกระเป๋ารักจริง
เปรียบดังรถเมล์วิ่ง รับส่งโดยสาร
อยากจะจอดพัก อู่รักน้องนางบั้นปลาย
สละชีวิตเดียวดาย  มาขายข้าวแกงช่วยน้องสร้างตัว...
:009:

------------------------------------------------
เพลง สาวแม่ค้า
ขับร้องโดย จาระไน วิไลลักษณ์
คำร้อง-ทำนอง สุรินทร์ ภาคสิริ

    ได้ยินหนุ่มกระเป๋ารถเมล์
ถ่ายคำหวานร้อยเลห์ ทุ่มเทรักอยากเชยชม
หวาดหวั่นยิ่งนักเรื่องรัก เพราะน้องกลัวต้องตรม
ปากชายหวานเพียงลม ไม่ช้าพอสทรักก็คลาย
     พี่คงหลอกให้หลงน้ำคำ
ปล่อยแม่ค้าเพ้อพร่ำ ทุกคำพี่บอกมั่นหมาย
หนุ่มๆลูกค้า ต่างมาหมายตามากมาย
ฝากคำรักง่ายดาย ไหนจะมีรักแน่นาน
     กระเป๋ารถเมล์ ก็เหมือนรถเมล์ตำรวจ
ใครหลงรัก ต้องปวดแสบใจไปนาน
รักง่ายถ่ายเท เหมือนรถเมล์ถ่ายผู้โดยสาร
ไปแอบมีรักพัวพัน สาวกระเป๋าเอาไว้กี่คน
     พี่ต้อยต่ำใช่สิ่งสำคัญ
ปลูกต้นรักให้มั่น สักวันเห็นดอกออกผล
จะเปิดอู่รัก ให้พักแล้วรอสร้างคน
ไม่รวยแม้นยากจน เพียงรักหน้ามนจริงแท้ก็พอ...
:078:

กระต่าย:
เพลง รักแล้งเดือนห้า
ขับร้องโดย  ศรคีรี ศรีประจวบ
คำร้อง-ทำนอง  ไพบูลย์ บุตรขัน

      ย่างเข้าเดือนห้า น้ำท่าก็แห้งขอดคลอง
เมื่อยามได้มอง พื้นนาเป็นร่องแยกแตกระแหง
ต้นหญ้าสดเขียว ก็พลันแห้งเหี่ยวกรอบแดง
พื้นนาหน้าแล้ง เหมือนดวงใจแห้งแยกแตกเป็นแผล
     ย่างเข้าเดือนห้า แก้วตาคู่รักเปลี่ยนใจ
รู้ไหมว่าใครเฝ้าครวญหวลให้ จิตใจปรวนแปร
สิ้นความสดใส นั่งซึมขรึมใต้ต้นแค
เหมือนคนพ่ายแพ้ หัวใจเป็นแผลรักเศร้าระบม
     ลืมหมดสิ้นรสรักเก่า
น้องลืมร่มเงา ใต้ต้นสะเดาและซุ้มลั่นทม
น้ำแห้งเดือนห้า น้องก็หนีหน้าไปตามสายลม
ทิ้งไว้เพียงกลีบลั่นทม ให้มันเฉาแห้งเหี่ยวตาย
     ย่างเข้าเดือนห้า ท้องฟ้าแห้งแล้งเมฆลอย
พื้นนาก็คอย น้ำฝนจะร่อยร่วงหล่นเรียงราย
ดั่งหนุ่มคอยสาว เห็นทีจะเศร้าใจตาย
น้องชั่งใจร้าย หยามหัวใจชายทิ้งได้ลงคอ...
 :102:

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว






Saisampan.net
สายสัมพันธ์ - เพลงลูกทุ่งเก่า (เก่ากว่าที่ท่านคิด)