ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
เมษายน 24, 2024, 11:17:48 AM

 


  หน้าแรก  • ช่วยเหลือ  • ค้นหา  • เข้าสู่ระบบ  • สมัครสมาชิก



สถานีวิทยุออนไลน์
สายสัมพันธ์





ท่านสามารถขอเพลงฟังได้
ที่กล่องขอเพลงด้านซ้ายมือ
แต่อาจไม่ได้รับฟังทุกเพลง
เนื่องจากจะรองรับเพลงตามขอ
ของสมาชิกภายในก่อน
หน้า: [1]
 
ผู้เขียน หัวข้อ: Ella Fitzgerald ราชินีเพลงแจ๊ส  (อ่าน 6660 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
tanay2507
ปลดออกจากสมาชิก


คำขอบคุณ: 5543
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1931
สมาชิก ID: 27


Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 35 : Exp 73%
HP: 0%


เว็บไซต์
« เมื่อ: กันยายน 05, 2009, 08:56:58 AM »



Ella Fitzgerald

          " The First Lady of Song " สมญานามที่ Ella Fitzgerald ได้รับมาเป็นเครื่องพิสูจน์ความเป็นที่สุดของนักร้องแจ๊สหญิงตลอดกาลคนนี้ (แม้ในบางครั้งตำแหน่งนี้จะตกเป็นของ Sarah Vaughan หรือไม่ก็ Billie Holiday) ฟิตเจอร์รัลด์สามารถทำให้ผู้ฟังมีความสุขไปกับความไพเราะของน้ำเสียงอันยิ่ง ใหญ่อันแตกต่างไปจากคนอื่นๆ เธอเป็นนักร้องเสียงใสที่มีความชัดเจนในการออกเสียงอักขระคำร้อง ทำให้ผู้ฟังสามารถเข้าถึงความหมายของบทเพลงที่เธอร้องได้อย่างทราบซึ้ง ถึงแม้ว่าเธอจะสามารถสร้างความสุขให้กับผู้ฟังได้ในทุกๆ ครั้งที่ได้ฟังเพลงของเธอ แต่ดูเหมือนว่าเธอมักจะไม่ร้องเพลงตามเนื้อร้องที่วางไว้ เธอมักจะแปลเนื้อและลดท่วงทำนองลง อย่างในเพลง Love for sale อย่างไรก็ตามเมื่อเรามองคุณค่าของเธอในภาพรวมแล้วเธอยังคงเป็นนักร้องที่หาใครเทียบชั้นได้

           เราไม่สามารถคาดเดาการร้องของ เอลล่า ฟิตเจอร์รัลด์ ในแต่ละวันได้เหมือนกับที่คาดเดาจาก Billie Holiday ฟิตเจอรัลด์เธอเติบโตขึ้นท่ามกลางความยากจน เธอไม่มีบ้านพักอย่างถาวรในช่วงวันหยุดยาว ในปี 1934 เธอปรากฏตัวที่ Apollo Theater ใน Harlem พร้อมค้าวรางวัลชนะเลิศการประกวดการร้องเพลงสมัครเล่นจากเพลง "Judy" ในแบบฉบับที่เธอชื่นชอบตามอย่าง Connee Boswell หลังจากเธอทำงานอันแสนน่าเบื่อในช่วงเวลาสั้นๆ กับ Tiny Bradshaw เธอได้ถูกแนะนำให้รู้จักกับ Chick Webb โดย Benny Carter (คนที่อยู่ในหอประชุม Apollo) ในตอนแรก Webb ไม่สนใจเด็กน้อยผู้มีประสบการณ์เพียงแค่ 17 ปีคนนี้ แต่ก็ยังเปิดโอกาสเธอได้แสดงฝีมือด้วยการให้เธอได้ร่วมร้องเพลงกับวงออเครส ตร้าในค่ำคืนหนึ่ง ซึ่งเธอทำได้ดีจนมือกลองของวงออกปากชมฝีมือของเธอจัดอยู่ในขั้นแนวหน้า หลังจากนั้นเธอจึงได้เริ่มต้นบันทึกเสียงในปี 1935 กับ Webb's Orchestra และในปี 1937 เพลงมากกว่าครึ่งของวงเป็นเสียงของเธอ จนทำให้เพลง "A-Tisket, A-Tasket" กลายมาเป็นที่รู้จักกันในปี 1938 และตามด้วยเพลง "Undecided" ในระหว่างยุคเฟื่องฟูเธอถูกจัดกลุ่มให้อยู่ในหมู่ของนักร้องเพลงป้อป/สวิง แนวบัลลาดที่ดีที่สุด อันเนื่องมาจากจังหวะการร้องที่เป็นธรรมชาติไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไปแถมยังมี ความเป็นเด็กและความสวยงามของเนื้อเสียงผสมอยู่ในตัว แต่ทั้งหมดนั้นเธอยังไม่ได้ถูกนำมันออกมาใช้อย่างถูกต้องจำเป็น ต้องพัฒนาต่อไป

        เมื่อ Chick Webb เสียชีวิตลงในวันที่ 16 มิถุนายน 1939 ทำให้เธอต้องตัดสินใจแบกรับภาระของวงออเครสตร้าเอาไว้ แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการแสดงการดูแลและการค้นหานัก ดนตรีใหม่ๆ แต่เธอก็รับหน้าที่นี้ คอยรักษาความนิยมเอาไว้ จนเธอออกจากวงในปี 1941 และมีผลงานเดี่ยวอยู่ไม่นานก่อนที่เธอจะได้บันทึกเสียงให้กับสังกัด Decca recordings ซึ่งในตอนนั้นเธอได้ความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่เพียงผลงานเพลงเธอยังเป็นผู้ก่อตั้งทีมซึ่งประกอบด้วย the Ink Spots, Louis Jordan และ the Delta Rhythm Boys จนมียอดขายอัลบั้มสูงสุดและในปี 1946 ศิลปินจาก the Philharmonic อย่าง Norman Granz ได้เริ่มเข้ามาทำงานให้กับเธอแบบเต็มเวลา เขาเริ่มเข้ามาดูแลเธอในช่วงยุคก่อนที่เธอจะมีผลงานเป็นของตัวเอง เหตุการณ์ที่ทำให้ฟิตเจอร์รัลด์เป็นที่รู้จักในเวลาต่อมานั้นคงเป็นการที่ เธอได้แสดงกับวงของ Dizzy Gillespie จนทำให้เธอรับเอาเพลง bop มาเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางของเธอและเริ่มรวมแนวทางดังกล่าวเข้ากับความสนุก สนาน เล้าใจ ไว้ในเพลงที่เธอแต่ง ผลงานการบันทึกเสียงของเธอในแนวดังกล่าว อาทิ "Lady Be Good," "How High the Moon," และ "Flying Home" ในช่วงปี 1945-1947 เธอเริ่มเป็นที่รู้จักและมีเจนจัดในการร้องเพลงแนวแจ๊ส ดังเห็นได้จากผลงานของเธอ สำหรับช่วงเวลา (10 ธันวาคม 1947 – 28 สิงหาคม 1953) หลังจากที่เธอได้แต่งงานกับมือเบส Ray Brown และเล่นดนตรีในแบบ Trio เธอได้ออกผลงานคู่ในแบบซีรี่ย์กับนักเปียโน Ellis Larkins ในปี 1950 (1954 เธอกลับมาร่วมงานกับ Larkins อย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง) เธอร่วมสร้างผลงานกับนักร้อง George Gershwin ด้วยผลงานซึ่งเป็นที่รู้จักอย่าง อัลบั้มซีรี่ย์ Songbook


,
สมาชิกใหม่ทุกท่าน >>> กดที่นี่

ท่านเป็นเช่นนี้หรือไม่ ?
1 login ... เข้าเวป
2 หาเพลงโหลด
3 มีให้โหลด ตอบเพื่อโหลด ไม่มีให้โหลด ไปข้อ4
4 logout ... ไปดีกว่า
อา-ราย-หว่า ???

บันทึกการเข้า
tanay2507
ปลดออกจากสมาชิก


คำขอบคุณ: 5543
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1931
สมาชิก ID: 27


Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 35 : Exp 73%
HP: 0%


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 05, 2009, 09:11:05 AM »



          หลังจากปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่อง Pete Kelly's Blues เมื่อปี 1955 เธอร่วมร้องเพลงกับ Norman Granz ภายใต้สังกัด Verve และมากกว่านั้นในปีถัดไปเธอได้บันทึกเสียงอัลบั้ม Songbook อีกครั้งด้วยผลงานเพลงของ Cole Porter, the Gershwins, Rodgers & Hart, Duke Ellington, Harold Arlen, Jerome Kern และ Johnny Mercer แม้ว่า (ยกเว้นผลงานของ Ellington) ศิลปินเหล่านั้นจะไม่ทำให้ผลงานของเธอเป็นที่นิยมสำหรับคอเพลงแจ๊สตะวันออก (เธอพยายามอย่างมากที่จะผสานจังหวะให้เป็นธรรมชาติไปกับแนวออเคสตร้า) แต่ถึงอย่างไรชื่อเสียงของเธอยังคงเป็นที่รู้จัก ในช่วงปี 1960 เธอออกผลงานเพลงสนุกสนานอย่าง " Mack the Knife " (เพลงที่ทำให้เธอแสดงตัวตนของเธอออกมา) จากอัลบั้มคลาสสิคอย่าง Ella in Berlin และทั้งหมดนี้เป็นผลงานที่เธอออกกับสังกัด Verve recordings

         ฟิตเจอร์รัลด์อยู่กับสังกัด Capitol and Reprise recordings ในช่วงปี 1967-1970 แต่นั่นไม่ได้เป็นการยกระดับการร้องของตัวเธอขึ้น เพราะเพลงส่วนใหญ่เป็นเพลงป้อปอย่าง"Sunny" และ "I Heard It Through the Grapevine” จึงทำให้การบันทึกเสียงของเธอไม่ประสบความสำเร็จ ในปีต่อมา Norman Granz ยังคงรักษาเธอไว้ด้วยการให้อัลบั้มใหม่ Pablo ในที่สุดเธอได้ไปมีส่วนร่วมกับ Santa Monica Civic concert ในปี 1972 ทำให้เธอมีชื่อเสียงโด่งดัง ด้วยการที่เธอไม่ยึดถือกับแนวเพลงเดิมของ " C Jam Blues " แต่เธอกลับแสดงมันออกมาในแบบแจ๊สตามที่เธอถนัดในช่วงปี 1970 พร้อมด้วยแนวทางอื่นที่เธอชื่นชอบไม่ว่าจะเป็น Count Basie, Oscar Petersons หรือ Joe Pass ความยิ่งใหญ่ของเธอเริ่มจางหายในช่วงปี 1980 เธอเริ่มทรุดโทรมไปตามอายุ เห็นได้ชัดจากอาการผิดปกติทางสายตาและอาการทางหัวใจซึ่งในบางครั้งไม่มีการ ตอบสนอง ด้วยเหตุดังกล่าวจึงทำให้เธอห่างหายไปจากวงการนานๆ ครั้งเธอถึงจะกลับมาปรากฏกายให้เห็นเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่า ฟิตเจอร์รัลด์ ยังคงอยู่ ยังคงรักษาความรู้สึกของแนวเพลงสวิงและความสนุกสนานในแบบของเธอไว้เสมอ จนในปี 1994 เอลล่า ฟิตเจอร์รัลด์ เริ่มถอยห่างจากวงการและเมื่อผ่านไปสองปี เธอเสียชีวิตหลังจากทรมานกับโรคเบาหวานจนถึงกับต้องถูกตัดขาทั้ง 2 ข้าง


สมาชิกใหม่ทุกท่าน >>> กดที่นี่

ท่านเป็นเช่นนี้หรือไม่ ?
1 login ... เข้าเวป
2 หาเพลงโหลด
3 มีให้โหลด ตอบเพื่อโหลด ไม่มีให้โหลด ไปข้อ4
4 logout ... ไปดีกว่า
อา-ราย-หว่า ???

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
 
 
กระโดดไป:  






Saisampan.net
สายสัมพันธ์ - เพลงลูกทุ่งเก่า (เก่ากว่าที่ท่านคิด)
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!