นคร พงษ์ภาพ หรือ ดาว มีบทบาทในฐานะผู้อยู่เบื้องหลัง ความดังของวงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ในอดีตวงหนึ่ง นั่นคือวงเพชรพิณทอง โดยเขาเป็นพี่ชายแท้ๆ ของ นภดล ดวงพร หรือณรงค์ พงษ์ภาพ
นคร พงษ์ภาพ เติบโตมาจากครอบครัวศิลปินโดยแท้ โดยมีพี่น้องทั้งหมด 6 คน และมีถึง 3 คน ที่ได้เลือดศิลปินหมอลำมาจากพ่อเสา พงษ์ภาพ คือตัวเขาเอง , นพดล ดวงพร และชุติมา ดวงพร ซึ่งพ่อเสาถือได้ว่าเป็นครูหมอลำกลอนที่มีชื่อเสียงในระดับเกจิอา จารย์หมอลำก็ว่าได้
เมื่อโตขึ้น 3 พี่น้องเดินทางจากอุบลราชธานี มุ่งหน้าล่าฝันบนถนนสายลูกทุ่ง โดยตัวเขามีความตั้งใจที่จะเป็นนักร้อง แต่เสียงไม่ดีเท่าพี่น้องคนอื่น จึงได้เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง โดยชีวิตการทำงานเบื้องหลังเริ่มต้นตั้งแต่สังกัดวงจุฬารัตน์ ระหว่างนี้ นพดล ดวงพร ได้ก้าวขึ้นเป็นโฆษกคู่กับประจวบ จำปาทอง ส่วน ชุติมา น้องสาวคนเล็ก ก็เป็นนักเต้นประจำวง หลังจากที่ 3 พี่น้อง อยู่วงจุฬารัตน์ได้ระยะหนึ่ง ก็ได้ลาออกมาเพื่อตั้งวงดนตรีของตัวเอง ระหว่างนั้นตัวเขาเองมีอาชีพเปิดร้านถ่ายภาพ ชื่อร้านนครศิลป์ ใน จ.อุบลราชธานี โดยร้านถ่ายรูปของเขา ตั้งอยู่ด้านตะวันออกวัดสว่างอารมณ์ ถนนสรรพสิทธิ์ และพวกเขาก็ใช้ที่นี่เป็นสถานที่คัดเลือกนักร้องนักดนตรี
ในการตั้งวงใหม่ ทางวงต้องซื้อเพลงจากคนอื่นเพลงละ 300 บาท นพดลจึงเอ่ยปากขอให้พี่ชายช่วยแต่งเพลงให้ ทั้งๆ ที่ไม่มีความรู้เรื่องการแต่งเพลงมาก่อน แต่ด้วยความที่รักน้อง จึงได้พยายามเขียนเพลงให้ โดยเพลงแรกที่แต่งคือ เพลงมาร์ชเพชรพิณทอง ซึ่งต่อมา เขาก็กลายเป็นนักแต่งเพลงประจำวงเพชรพิณทองยุคแรกๆ โดยเขียนเพลง “ ภาพถ่ายวิญญาณรัก “ และ “ อย่าให้เหมือนนกขมิ้น “ให้นกน้อย อุไรพร ซึ่งก็ทำให้นกน้อยเป็นที่รู้จักในวงการเพลง หลังจากนั้นก็ได้แต่งเพลง “ นกจ๋า “ ให้ ชุติมา ดวงพร ร้องซึ่งก็ทำให้ ชุติมา กลายเป็นที่รู้จักขึ้นมาเช่นเดียวกัน ตามมาด้วยเพลง “ ที่รักจ๋า “ และ “ บ่ลืมสัญญา “ ซึ่งก็ถือเป็นเพลงที่สร้างชื่อให้ ชุติมา ดวงพร ต่อมาถึงรุ่นนักร้องชายอย่าง วิเศษ เวณิกา
นอกจากงานประจำแล้ว ในปัจจุบัน นคร พงษ์ภาพ ยังเป็นแกนนำชาวบ้านในชุมชนท่าวังหิน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี โดยรวบรวมชาวบ้านต่อสู้กับความไม่ยุติธรรมในหลายเรื่อง และยังเป็นผู้ที่มีความรู้ด้านการแต่งเรื่องสั้น การรักษาขนบธรรมเนียม และภาษาอีสานได้อย่างเหนียวแน่น
ขณะเดียวกันยังคงใช้เวลาว่างแต่งเพลงเก็บไว้ แต่เพลงที่แต่งกลับไม่เคยนำไปขายให้ค่ายเพลงใดๆ โดยเจ้าตัวมีนิสัยที่บอกว่าไม่ใช่หยิ่งในความสามารถ แต่เพราะหากแต่งเพลงแล้วคนร้องไม่เหมาะกับเพลง เสียงร้องๆ แล้วไม่ได้ ก็จะไม่ให้ร้องเพลงที่ตัวเองแต่งขึ้น และต้องหาคนใหม่ร้อง ซึ่งทำให้มีบทเรียนที่เคยถูกปฏิเสธงานเพลงที่แต่งขึ้น ทำให้ไม่เคยนำเสนอผลงานต่อค่ายเพลงอีกเลย
ปัจจุบัน นคร พงษ์ภาพ ในวัยเกือบ 70 ปี มีร้านถ่ายภาพของตนเอง คือ ร้านสตาร์วิดีโอ โปรดักชั่น ซึ่งตั้งอยู่ที่ เลขที่ 847/9 สรรพสิทธิ์ซอย 11 ถนนสรรพสิทธิ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ซึ่งรับถ่ายภาพนิ่ง วิดีโอ รับตัดต่อภาพ และถ่ายมิวสิควิดีโอ สารคดี ฝีมือชั้นเซียน เพราะเรียนรู้การถ่ายภาพและตัดต่อมาจากผู้กำกับฝีมือดีอย่าง เปี๊ยก โปสเตอร์
เพลง จากบ้านนาด้วยรัก
คำร้อง/ทำนอง นคร พงษ์ภาพ
ขับร้อง วิเศษ เวณิกา
โอ้บ้านนา ฝนฟ้าไม่อำนวย โชคไม่ช่วยบ้านนา ถึงคราระทม
แหงนมอง เบิ่งฟ้า โอ้บ้านนา ที่เคยชื่นชม
บัดนี้ บ้านนาระทม ขื่นขม เพราะความแห้งแล้ง
โอ้ชาวนา น้ำตาช่วยปลอบใจ เร่ร่อนไป จากนาเพราะข้าสิ้นแรง
จำใจ จากลา จากบ้านนา เพราะความแห้งแล้ง
ธรรมชาติ นั้นแกล้ง หมดแรง แล้วเรา บ้านนา
โอ้ฟ้าไม่เมตตา ต้องจำจากจร จากคอนที่เคยสุข
พี่ป้า น้าอา ใช่จะอยาก จากไอ้ทุย
เรียวรวงบ้านนา แต่ข้าจากมา จากบ้านนา ด้วยรักฝังใจ
โอ้บ้านนา ปีหน้าถ้าโชคดี ฟ้าปราณี น้องพี่คอยพบกันใหม่
ปีนี้ขอลา จากบ้านนา ทำงานเรื่อยไป
เห็นทิวกอไผ่ โอนไหว โอ้ใจ คิดถึงบ้านนา