สองมือ
จ้องดูมือทั้งสอง ที่เป็นรอยเป็นริ้วด้วยวัยชรา
จำติดตา ภาพวันผ่านไปแสนนาน
ลมแผ่วมาคอยย้ำเตือน ว่าอีกหน้าฝนนั้นเคลื่อนผ่าน
ฝังพันธุ์ไม้ที่เพาะลง ลำพัง
เฝ้ามองดูต้นไม้ ที่ดูแลประคองเลี้ยงดูขึ้นมา
ชูดอกงามจับตา แข่งให้ฟ้าหม่น
เพลงแผ่วมาคอยย้ำเตือน เมื่อดอกและใบนั้นร่วงหล่น
เหี่ยวและเฉาเดียวดาย ว้าเหว่
เรากำลังอ่อนล้า วันเวลาขับขาน
ดังกังวาน ผ่านวันและคืน
แต่ลมยังโชยกลิ่นไอ เตือนใบไม้ให้หวนตื่น
และดอกก็บานพลิกพื้น ขึ้นใหม่
เป็นความงามอันบรรเจิด ไม้นั้นจะทานแรงลม
ในทุกอรุณเมื่อฟ้าเยือน ชีวิตคือการชื่นชม
และมองดูวัยเยาว์ร่าเริง เหมือนฟ้าและดินเกลียวกลม
เป็นผลและงานให้รื่นรมย์ เป็นครรลอง...เพราะสองมือคน.
ในดวงใจเพลงนึงเลยครับเพลงนี้
เคยเปิดให้คนอื่นๆ ฟังในสถานการณ์หนึ่ง
สถานการณ์ที่ทุกคนกำลังเหนื่อยล้าจากภัยธรรมชาติบางอย่าง
มีทั้งคนประสบภัย และคนที่ช่วยเหลือคนประสบภัย
เปิดให้เค้าฟังด้วยความรู้สึกว่าเพลงนี้เต็มไปด้วยพลังของความเชื่อมั่นในมนุษย์!
เปิดเพราะรู้สึกว่าเรากำลังเห็นคนที่ทุ่มเทช่วยเหลือคนอื่นแล้วเรารู้สึกมีความหวัง
อาจเป็นความหวังที่เสี่ยงต่อความผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง
เพราะ ณ เวลาเดียวกันก็ยังมีคนที่คอยเอาเปรียบยามคนอื่นลำบาก
แต่ในฐานะคน
เราจะหวังอะไรได้อีกหรือ
ถ้าไม่หวังจาก "คน"
เนาะ