แม่กลอง - สุเทพ วงศ์กำแหง

[หมื่นกระบี่ไร้พ่าย]

<a href="http://saisampan.net/upload/data/flash/l9uesw-49f3ae.swf" target="_blank">http://saisampan.net/upload/data/flash/l9uesw-49f3ae.swf</a>

แม่กลอง - สุเทพ วงศ์กำแหง

[Oneway111]

แม่กลอง - สุเทพ เพลงเกี่ยวกับ อ. แม่กลอง ที่ผมชอบมากที่สุด เพราะขับร้องโดยครูสุเทพ ผู้มีน้ำเสียงเสน่ห์ แฝงไว้ด้วยความเศร้า ขอบคุณท่านหมื่นกระบี่ ที่ทำให้ผมได้หวนรำลึกกลับไปครั้งยังวัยเด็ก ครั้งที่ติดรถส่งเหล้าไปกับคุณพ่อที่แม่กลองครับ

[chattanon]

ว่าจะเขียนประสบการณ์เกี่ยวกับแม่กลอง..ที่เคยได้สัมผัสมา    ก็เพิ่งจะมีโอกาส   หลังจากได้ฟังเพลง แม่กลอง. ที่สุเทพ วงศ์กำแหง ขับร้อง เพลงนี้จากข้อมูลในหน้า 177   จากหนังสือเพลงรักอมตะ  บอกไว้ว่าเพลงนี้ประพันธ์ทำนองโดย ครูสมาน  กาญจนผลิน คำร้องโดย ครูชาลี  อินทรวิจิตร  .. เพลงนี้ผมกับ  อ.หมอโกเมศ ร้องบ่อยมาก เพราะเป็นเพลงที่ใกล้ตัวอาจารย์ คือท่านเกิดที่จังหวัดราชบุรี   ซึ่งแม่น้ำแม่กลองไหลผ่าน  ทานเคยพาศิษย์คนสนิทคือผม ไปเยี่ยมแม่ที่บ้านเกิดในวันเสาร์-อาทิตย์   และพาไปหาเพื่อนเก่าๆ  ที่ติดกับแม่น้ำแม่กลอง.. สมาชิกวันนั้นมีเพียง3-4  คน  ทุกคนนั่งบนแคร่ไม้ไผ่ที่ทำขึ้นเองภายใต้ร่มเงามะม่วงที่แผ่กิ่งให้ร่มเงา   วง..ดนตรี ชั่วคราวเริ่มขึ้นเมื่อตะวันกำลังเริ่มคล้อย..แสงอาทิตย์เริ่มสลัว   เครื่องประกอบการสนทนา และ การดนตรี  ได้เริ่มทะยอยเปิด แจกจ่ายให้แต่ลพคน แน่นอน..เราเด็กกว่าเพื่อนก็ต้องทำหน้าที่ทุกอย่าง ตอนนันเราเรียกว่าชง  (ชง..คือ การปรุงเหล้าให้มีรส
ชาติน่าดื่ม ไม่เข้ม หรือจืดจนยุงไปวางไข่ได้)   ประมาณสักสามสี่รอบที่ชนแก้ว..ดีกรีเริ่มเข้าสู่กระแสโลหิต..สิ่งที่มิได้นัดหมายคือเรามองไปที่แม่น้ำแม่กลอง.. อ.หมอเริ่มเล่าเรื่องความเป็นมาของเด็กแม่กลอง ว่า..ท่านเกิดที่ริมแม่น้ำแม่กลอง  เล่าเรื่องความเป็นมาของความยากลำบาก..จากนั้นก็ร้องเพลงแม่กลองที่สุเทพ  ขับร้อง.. ทุกครั้งที่ท่านร้องอารมณ์เพลงนับเป็นเรื่องสำคัญ ..ท่าทางประกอบเพลง การผายมือ บางช่วงบางตอนให้ความรู้สึกที่ดี ช่วงเนื้อเพลงท่ร้อง ว่า "  พี่ลอยรักให้ฝากไปในสายแม่กลอง  ขอเชิญให้น้องครองความรักไว้เถิดหนา"  นั่งตรงนั้นเห็นภาพที่ครูชาลี เขียนเหมือนตัวเอง กำลังลอยคอ หรือกำลังฝากรักไปตามสายลมและสายน้ำ"    การจะร้องเพลงให้ได้บรรยากาศและเข้าบรรยากาศ ไม่ใช่สักแต่จะตะโกน  มันต้องร้องด้วยอารมณ์ และจิตวิญญาณ  มันจึงจะไพเราะ..ดังนั้นทุกครั้งเวลามีงานใญ่ระดับเชิดหน้าชูตา  ต้องดึงผมไปด้วยทุกครั้ง..ท่านมักจะแนะนำเพื่อนๆ  ว่าผมคือน้องชาย..และนับแต่รู้จักท่านมา ผมไม่เคยทำให้ท่านผิดหวัง. คืนนั้นกว่าจะได้เลิกลาจากวงการเพลงก็หมดไปอย่างน้อยก็สองขวด..ทุกคนแยกย้ายกันกลับ จากวันนั้นถึงวันนี้ เวลาก็ลาวงมาแล้วสัก 31  ปีแล้วครับ ขอบคุณท่านหมื่นกระบี่ไร้พ่าย..ที่เอาแค่แม่กลองมาให้มีความสุขทางจิตใจ  แต่หากให้แม่โขงมาด้วยได้สองอย่างคือทั้งทางจิตใจและทางกายด้วย..ครับ

[spwutti]

ท่านchattanon เล่าเรื่องยาวมาแล้ว

ผมก็ขอกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "เพราะมาก" ครับ

[chattanon]

ลืมบอกปีที่สุเทพ  วงศ์กำแหง บันทึกแผ่นเสียงครั้งแรกของเพลงนี้ คือปี 2507  เป็นเพลงในความทรงจำที่มิอาจลืมได้  เพราะมันนึกถึงความหลังการได้เคย ทุกข์ เคยสุขกับชีวิตที่ผ่านมา   เมื่อตอนที่ผมยังไม่ได้มาบรรจุเป็นข้าราชการ ช่วงการเป็นเซลแมน ลำบากมาก ต้องมาขออาศัยคลีนิคของอาจารย์หมอโกเมศ  เป็นที่พัก ค่าเช่าท่านก็ไม่เอา  ตอนนั้น ปี 2524  เรียนจบแล้วยังหางานทำ..เขียนจดหมายสมัครงานที่บริษัทอีเลคโทรลักซ์ ทางจดหมาย เขาเรียกให้มาเข้าอบรม    ไม่รู้ว่าจะต้องมาเป็นเซลแมน  ผู้จัดการใหญ่บอกว่าเป็นตำแหน่งนักวิจัยการตลาด   มาอยู่ที่นี่ได้สองเดือน ทนกับสภาพของการเอาเปรียบ ของซูเปอร์ไวเซอร์ไม่ไหว  เลยต้องลาออก   พักคลีนิคบ้าง  บ้านเพื่อนบ้าง   บ้านรุ่นน้องบ้าง บ้านพี่เตี้ยแม่ค้าขายข้าวแกงที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง  ห้องดนตรีบ้าง ผมมีกุญแจอยู่เพราะช่วงที่ผมเป็นประธานชมรมทำกุญแจสำรองไว้  อาจารย์ท่านไม่ได้ว่าอะไร  เพราะสมัยเรียนเรามีแต่ทำชื่อเสียงให้ สถาบัน  ออกไปเล่นดนตรีไทยในต่างจังหวัดบ้าง  ตอนเป็นเซลแมน ได้รับเงินเดือนๆ ละ 3000  บาทพอดี  เงินจำนวนนี้ก็หนักไปทาง เครื่องดื่ม ประกอบการสนทนาและการบันเทิง  เพื่อนร่วมรุ่นเซลแมนที่สนิทมี สามสีคน ชัยวัฒน์  นาควิเชียร จบบัญชีจุฬา  พักบ้านพักรถไฟสถานีบางกอกน้อย  ธนบุรี ต่อมาสอบเป็นนักวิชาการบัญชี ที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์เทเวศร์  อีกคนคือขจร  เพชรเกษม   คนนครศรีธรรมราช    อีกคนคือตี๋ใหญ่ มีเมียแล้ว   เงินเดือนเดือนแรก ใช้แบบสุรุ่ยสุร่าย ไปดื่มเบียร์กับตี๋ใหญ่ที่เบียร์เฮ้าท์ ข้างสะพานเขตพระโขนง กลับเข้ามาบ้านด้วยความสุข เมียเขาถามว่าวันนี้รับเงินเดือนมาแล้วใช่ไหม.. ขอมาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว.. ผมแทบจะสร่างเมา สักครู่นี้เราอิ่มเอมกับบริกรสาวสวย เสียงดนตรี เพราะงานเซลเหนื่อยและเครียดมาก  ตี๋ใหญ่ชวนให้มาค้างบ้านพัก ก็นึกว่าเป็นโสด ..เอ้า เดือดร้อนแล้วเราไปชวนให้เขาหมดเงินหมดทองไปกับเราด้วย ถ้ารู้ว่าเขามีครอบครัวผมคงจะไม่ติดลมลากยาวจนเกือบเที่ยงคืนหรอก.. ผมบอกตี๋ใหญ่ เฮ้ย..เอาเงินของผมไปเพิ่มให้เมียนายเถิดวะ..จะได้ไม่เกิดสงคราม..  วันรุ่งขึ้นตอนเย็นก็เลยมาพักคลีนิคหมอ  สบายใจกว่า  เงินเดือนเดือนแรกเลยซื้อของที่อาจารย์ชอบคือตับหวาน  น้ำตก โซดา   น้ำแข็ง  และ...        เมื่อเข้าที่   เสียงเพลงที่เปล่งจากปากและลำคอ  ก็ดังขึ้น ..สายชลแม่กลอง   น้ำนองสองฟากล้นฝั่ง   น้ำใจจงหลั่ง  พอได้ประทังชีพฉัน  สายน้ำมิอาจตัดขาดออกไปจากกัน  สายใยสัมพันธ์ขาดกันมิได้หรอกเอ๋ย...      ทั้งเทป  ทั้งร้องกันสดๆ   ยันรุ่งสาง..แล้วต่างคนต่างสโหลสเหล ล้างหน้าล้างตา ไปทำงาน..สู้ๆๆๆ  รับรองงานไม่เสีย.. พักเที่ยง งีบได้สักครึ่งชั่งโมง  เดี๋ยวก็ฟื้น    ใช่..ถ้าท่านยังอยู่รับรองสายใยสัมพันธ์ระหว่างผมกับท่านคงยังคงเดิม และจะมีเรื่องมาเล่าให้ฟังมากกว่านี้..เสียอีก       

[Narong]

        ขอขอบคุณ คุณหมื่นกระบี่ไร้พ่าย ครับที่รวบรวมเพลงเกี่ยวกับแม่กลอง ไว้หลายเพลง ถ้าจะรวมเพลงที่เกี่ยวกับจังหวัดสมุทรสงครามมีหลายเพลงเหมือนกัน เช่น เพลงฝนพรำที่อัมพวา เพลงตะวันรอนที่ดอนหอยหลอด เพลงบางช้าง ของคุณศรคีรี   ศรีประจวบ   ท่านแต่งเอง ร้องเอง เพราะเป็นคนบางช้าง หนองอ้อ  เพลงโออัมพวา ของวงสุนทราพร  ฯลฯ  ผมจำได้ไม่หมด  บอกตรงๆว่า ฟังเพลงเหล่านี้คิดถึงบ้านครับ  
         ขอขอบคุณอีกครั้งครับ