Snow Storm in New York City
Snow Storm in New York City
สภาพอากาศเลวร้าย พายุหิมะพัดถล่มสหรัฐฯ ยกเลิกนับพันเที่ยวบิน-จราจรทางบกอัมพาต ขณะที่จีนหมอกลงจัด รถชนระนาวกว่า 100 คัน
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานข่าวพายุหิมะพัดถล่มชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ทำให้การจราจรทางบกต้องกลายเป็นอัมพาต หลังถูกหิมะปกคลุมสูงกว่า 70 เซนติเมตร โดยมหานครนิวยอร์ก เป็นจุดที่ได้รับผลกระทบจากพายุหิมะมากที่สุด สนามบินหลายแห่งในนิวยอร์ก รวมถึง กรุงวอชิงตัน และเมืองบอสตัน ต้องยกเลิกเที่ยวบินไปกว่า 2,000 เที่ยว ส่งผลให้ผู้โดยสารหลายพันคน ต้องตกค้างหลังเทศกาลคริสต์มาส อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ได้ระดมกำลังกว่า 2,400 คน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน เพื่อกำจัดหิมะบนพื้นถนน ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างคล่องตัวมากขึ้น
นอกจากนี้ หลายพื้นที่ยังได้การประกาศภาวะฉุกเฉินจากเหตุพายุหิมะ ได้แก่ แมสซาชูเซตส์ , เมน, แมรีแลนด์ , นอร์ทแคโรไลนา และเวอร์จิเนีย ขณะที่ รัฐทางตอนใต้ อย่างจอร์เจีย และเซาท์แคโรไลนา ก็มีหิมะตกในวันคริสต์มาสเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 100 ปี
ฤดูหนาวปีนี้สร้างความปั่นป่วนให้กับหลายประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในแถบยุโรป และอเมริกา ที่เกิดฝนตก และหิมะถล่มหนักในหลาย ๆ พื้นที่ จนทำให้การจราจรเป็นอัมพาต และต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบินหลายเที่ยว ขณะที่ประเทศจีนอุณหภูมิติดลบถึง 45 องศา
โดยในวันนี้ ( 27 ธันวาคม) มีรายงานว่า ได้เกิดพายุหิมะพัดถล่มในนิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์ ฟิลาเดเฟีย และอีกหลายรัฐในประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้หลายรัฐต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน เพราะหิมะที่ตกลงมาทับถมหนากว่า 1 ฟุต ส่งผลให้พื้นผิวจราจรลื่น จนเกิดอุบัติเหตุบนถนนหลายร้อยครั้ง ขณะที่หลายเที่ยวบินก็ยกเลิก
โดยที่เมืองโคลัมเบีย ในรัฐเซาท์ คาโรไลน่า เกิดหิมะตกในช่วงเทศกาลคริสต์มาสเป็นครั้งแรกในรอบ 123 ปี ทำให้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สายการบินหลายพันเที่ยวต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากหิมะตกหนักในสนามบินหลายแห่ง
ส่วนที่กรุงวอชิงตัน ได้ถูกหิมะปกคลุมไปทั้งเมือง แต่ยังมีประชาชน และนักท่องเที่ยวเดินทางมาถ่ายรูปทำเนียบขาวที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ เก็บไว้เป็นที่ระลึก ขณะที่รถไฟแอมแทร็ก ก็หยุดให้บริการระหว่างนิวยอร์กและบอสตัน ทำให้ประชาชนติดค้างที่สถานีเป็นจำนวนมาก
ด้านสำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา คาดการณ์ว่า จากหิมะที่ตกหนักรวมทั้งลมที่พัดแรง จะทำให้สภาพอากาศเลวร้ายกว่านี้ จนมองอะไรแทบไม่เห็น โดยเฉพาะในพื้นที่รัฐ โร้ด ไอส์แลนด์ แมทซาจูเสตต์ และบอสตัน ที่จะมีลมพัดแรงถึง 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ขณะที่ประเทศกรีซ คลื่นความเย็นที่พาดผ่านทำให้เกิดหิมะตกหนักทั่วประเทศ โดยอุณหภูมิลดลงจาก 17 องศาเซลเซียส มาอยู่ 2 องศาเซลเซียส และติดลบ 8 องศาเซลเซียสในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ ส่งผลให้บ้านเรือนและรถยนต์ของประชาชนถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน และบางแห่งไฟฟ้าดับ
ด้านประเทศตุรกี ก็มีสภาพอากาศไม่แตกต่างกัน โดยฝนและหิมะที่ตกกระหน่ำ ได้ทำให้รถยนต์ลื่นไถลพุ่งชนกันบนทางหลวงหลายคัน จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน
ฟากประเทศสเปน กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกระดับคำเตือนระดับสีเหลือง หลังเกิดฝนตก และหิมะตกหนักใน 36 จังหวัดทั่วประเทศ และหลายเมืองในตอนเช้ามีอุณหภูมิติดลบถึง 4 องศาเซลเซียส
ที่ประเทศรัสเซีย ฝนเย็นจัดที่กระหน่ำตกลงมาแทบจะเป็นก้อนน้ำแข็ง ทำให้ถนน ทางเท้าในกรุงมอสโกเต็มไปด้วยน้ำแข็ง ส่งผลให้ทางการต้องสั่งปิดสนามบินโดโมเดโดโว เนื่องจากไฟฟ้าดับ เพราะน้ำแข็งที่เกาะสายไฟฟ้า ทำให้สายไฟฟ้าขาด โดยเจ้าหน้าที่เร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนแล้ว
ขณะที่ประเทศจีน ต้องเผชิญกับอากาศหนาวที่สุด เมื่อคลื่นความเย็นพัดผ่าน ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ โดยเฉพาะที่หมู่บ้านนอร์ทโพลาร์ ในมณฑลเฮยหลงเจียง มีอุณหภูมิต่ำสุดที่ติดลบ 45 องศาเซลเซียส ประกอบกับมีลมหนาวและหิมะตกในบางพื้นที่
เช่นเดียวกับที่เมืองโมเฮ ในมณฑลเดียวกันมีอุณหภูมิติดลบ 43.5 องศาเซลเซียส และคลื่นความเย็นนี้ยังได้ทำให้มณฑลชานตง ในภาคตะวันออกมีหิมะตก และมณฑลซานซี ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือ มีหิมะตกเป็นครั้งแรกของปี ขณะที่สำนักอุตุนิยมวิทยาจีนกล่าวเตือนด้วยว่า จีนจะตกอยู่ในสภาพหนาวเย็นอย่างนี้ต่อไป และจะทำให้มีหิมะตกอีกครั้งหนึ่งทางตอนใต้ของประเทศ ทั้งในมณฑลหูหนาน และนครเซี่ยงไฮ้ด้วยขอขอบคุณภาพ และข้อมูลจาก : http://hilight.kapook.com/view/54746
