คิดถึงพี่หน่อยขับร้อง: ระพิน ภูไท
http://saisampan.net/demo/data/flash/lpwtk1-e94772.swf
พี่จนไปหน่อยถึงคอยไม่ไหวปล่อยไปตามกรรม
เพราะบุญเราทำร่วมกันแค่นี้
ลาก่อนแม่สาวในตาสีโศกขอให้โชคดี
แล้วนึกถึงพี่เพียงวันละหน่อย
โบกมืออำลาน้ำตาร่วงไหลหักใจมองเมิน
เสียใจเหลือเกินด้วยเงินเราน้อย
น้ำตาที่ไหลจนนองใบหน้าใช่มาสำออย
เพราะจนไปหน่อยน้อยใจ น้อยใจ
เขามาทีหลังพี่ตั้งนานชาวบ้านก็รู้
แต่แล้วพี่สู้เขาไม่ได้
อำนาจยศถาบรรดาศักดิ์ตัดรักแรมไกล
ตั้งแต่นี้ไปเหมือนเส้นขนาด
พี่จนไปหน่อยแหงนคอยอกเอ๋ยหลุดเลยลอยไกล
ขอเพียงเสี้ยวใจจากแม่จอมขวัญ
จงแบ่งใจนึกและคิดถึงพี่เพียงปีละวัน
ถึงจะไกลกันชื่นใจคนจน
ประวัติระพิน ภูไท มีชื่อจริงว่า บุญมี เรืองรัศมี เกิดเมื่อ พ.ศ. 2490 ที่ จ.สุโขทัย เป็นบุตรนายบุญมา และนางเจียน เรืองรัศมี มีพี่น้อง 8 คน เป็นคนที่ 5 เมื่อเขาโตขึ้น ครอบครัวย้ายมาอยู่ที่ พิษณุโลก โดยพ่อมีอาชีพถีบสามล้อรับจ้าง ต่อมาก็ซื้อรถสามล้อมาให้เช่า บางครั้งระพินจึงช่วยถีบสามล้อหาเงินบ้าง แต่เขาชอบที่จะร้องเพลงมากกว่า โดยชอบไปร้องเพลงเชียร์รำวงตามงานวัด ซึ่งพ่อแม่ของเขาก็ส่งเสริม โดยพาไปฝากอยู่กับวง "รวมดาวกระจาย" ของครูสำเนียง ม่วงทอง ที่มาเปิดการแสดงที่พิษณุโลก และครูก็รับเข้าร่วมวง หลังขึ้นไปทดลองร้องเพลง "กล่อมน้องนอนเปล" และ "ตำรวจครับ" ของ ชาย เมืองสิงห์และได้รับการตอบรับจากผู้ชมอย่างดี (บางแห่งบอกว่า เขาร้องเพลง ทุกข์ร้อยแปด ของชาย เมืองสิงห์ เป็นที่ถูกใจ ผู้ชมจึงขอให้เขาร้องเพิ่มอีกเพลง) เมื่อมาร่วมวง เขาใช้ชื่อว่า "เพชร พิษณุโลก"
ระพิน ซึ่งยังไม่ประสบความสำเร็จกับการเป็นนักร้อง ออกมาจากวงรวมดาวกระจาย หลังจากมีเรื่องชกต่อยกับน้องชายของครูสำเนียง และก็ได้หอบภรรยาชาวโคราช ที่พบรักตอนอยู่ในวง มาอยู่กับพี่สาวที่นครราชสีมา โดยหาเลี้ยงชีพด้วยการถีบสามล้อ ขณะที่ภรรยาขายของ
ต่อมาเมื่อวงดนตรีบรรจบ เจริญพรมาแสดงที่โคราช เขาจึงไปสมัครเป็นนักร้องในวง แต่ถูกปฏิเสธเพราะนักร้องเต็ม แต่ระพินก็ได้ขอขึ้นร้องหน้าเวที และเพราะสุ้มเสียงที่ไพเราะทำให้บรรจบ เปลี่ยนใจรับเข้ามาร่วมวงด้วย โดยใช้ชื่อว่า "ยอดเพชร ราชสีมา" แต่อยู่ประมาณ 1 ปี ก็ลาออก
ปี 2514 ครูฉลอง ภู่สว่างนัก แต่งเพลงชื่อดังชอบในน้ำเสียงของเขาจึงแต่งเพลงให้ร้องชุดแรก 3 เพลง คือ เพลงลาก่อนความโกหก, ปีวอกหลอกพี่, คำสั่งคุณหมอ โดยใช้ชื่อ ระพิน ภูไท เป็นครั้งแรกแต่ไม่มีทุน แต่ในที่สุด ก็ได้ประกิจ ศุภวิทยาโภคี มาเป็นนายทุน โดยทำสัญญาระบุว่า ระพินต้องอัดแผ่นเสียงให้ห้างซิมสันของเขาเพียงแห่งเดียวในระยะเวลา 3 ปีและสังกัดอยู่กับวงดนตรี "พิณศรีวิชัย" เท่านั้น ถ้าไปร้องให้คนอื่นต้องถูกปรับเพลงละ 20,000 บาท ระพินรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม แต่จนเมื่อเพลงชุดแรกดังแล้ว เขาได้ขอขึ้นค่าตัว แต่นายห้างไม่ยอม ระพินจึงงดออกงานกับวง ทำให้นายห้างฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ระพินยอมออกจากวง และมาตั้งวงเองเมื่อปี 2515 ก่อนจะมีผลงานเพลงออกมามากมาย
ในช่วงปี 2516-2517 ที่ระพินรุ่งเรืองสูงสุดนั้น เขาเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงมาก มีค่าตัวแพงที่สุด วงของ เขามีงานถึงคืนละ 3 ที่ตลอดปี จนต้องทำวงขึ้น 3 วง และเปิดแสดงในพื้นที่ไม่ห่างกันมากนัก เพื่อที่ตัว หัวหน้าวงจะได้คอยวิ่งรอกได้ ฯลฯ