ลาวดวงเดือน เพลงที่คนไทยทุกคนต้องรู้จัก มาฟังฉบับที่ เรียบเรียงไม่เหมีอนใครโดย lanna acoustics กันครับhttp://www.swfcabin.com/swf-files/1320723271.swf ประพันธ์เพลงโดย
พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหมื่นพิชัยมหินทโรดม
หรือพระองค์เจ้าชายเพ็ญพัฒนพงศ์
พระโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕
หลังจากที่ได้เสด็จกลับไปทรงศึกษาในประเทศอังกฤษ
ทรงเข้ารับราชการในตำแหน่งผู้ช่วยปลัด
กระทรวงเกษตราธิการ ใน พ.ศ. ๒๔๕๑
แต่ทรงสนพระทัยในดนตรีไทยเป็นอย่างมาก
โปรดให้มีวงปี่พาทย์วงหนึ่ง
เรียกกันว่า วงพระองค์เพ็ญ
กาลหนึ่งทรงเสด็จขึ้นไปเที่ยวนครเชียงใม่
อันเป็นนครแห่งศูนย์กลางวัฒนธรรมล้านนาสมัยนั้น
สมัยนั้นพระยานริศราชกิจเป็นข้าหลวงใหญ่
อยู่ประจำมลฑลพายัพ ได้จัดการรับเสด็จต้อนรับ
พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าชายเพ็ญพัฒนพงค์
อย่างสมพระเกียรติ โดยเจ้าหลวงอินทวโรรสสุริยะวงศ์
เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ได้จัดการรับเสด็จ
อย่างประเพณีชาวเหนือโดยแท้
โดยให้ประทับในคุ้มหลวงและเสวยพระกระยาหารแบบขันโตก
มีการแสดงละครและดนตรีในคุ้มนี้ด้วย
ในงานต้อนรับเสด็จครั้งนี้ เจ้าอินทวโรรส
และเเจ้าแม่ทิพยเนตรได้ชวนเชิญเจ้าพี่เจ้าน้อง
และพระญาติวงศ์มาร่วมรับเสด็จโดยพร้อมเพียงกัน
ในบรรดาพระญาติวงศ์เจ้านายเชียงใหม่
ปรากฎว่ามีเจ้าราชสัมพันธวงศ์และเจ้าหญิงคำย่น
พร้อมด้วยธิดาองค์โต
พระองค์เจ้าเพ็ญ พัฒนพงศ์ เจ้าชายหนุ่มอายุ ๒๑ ปี
บังเกิดความสนพระทัยในดรุณีแน่งน้อยนี้มาก
จนเกิดความพิสมัยขึ้นในพระทัย
เหมือนกับชายหนุ่มพบคนรักครั้งแรก!!
ด้วยใกล้ชิดนานวันเข้า....พระองค์เจ้าชายเพ็ญ
ก็ยิ่งเกิดความปฏิพัทธ์หลงใหล
พระองค์จึงโปรดให้ข้าหลวงใหญ่มณฑลพายัพ
เป็นเฒ่าแก่เจรจาสู่ขอ
แต่การเจรจาสู่ขอกลับได้รับการทัดทาน
ความครั้งนี้นำมาซึ่งความผิดหวังครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต
เพราะเมื่อจะมีรักครั้งแรกทั้งทีก็มีกรรมบันดาล
ขัดขวางไม่ให้รักสมหวังไม่ได้เชยชมสมใจ
ความทุกข์โศกใดจะเทียมเทียบเปรียบปาน
ต้องเสด็จกลับกรุงเทพด้วยความร้าวรานพระทัย
คงปล่อยให้เชียงใหม่เป็นนครแห่งความรัก
และความหลังของพระองค์
ครั้นถึงกรุงเทพ
เรื่องการสู่ขอเจ้าหญิงเมืองเหนือได้แพร่สะพัด
ไปในหมู่พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชบริพารผู้ใกล้ชิด
เจ้านายชั้นผู้ใหญ่หลายพระองค์ทรงทัดทานอย่างหนัก
โดยอ้างเหตุผลต่างต่าง นานา
เป็นอันว่า
ความรักของพระองค์ประสบความผิดหวัง
อย่างสิ้นเชิงทุกประการ
คราใดสายลมเหนือพัดมา...
หัวใจก็แสนเศร้ารันทดใจครานั้น...
การหวนรำลึกถึงโฉมอันงามพิลาส
ของเจ้าหญิงผู้เป็นที่รัก
พระองค์จึงทรงระบายความรัก
ความอาลัยของพระองค์
ลงในพระนิพนธ์บทร้อง
ลาวดวงเดือน
เพื่อเป็นที่ระลึกถึง เจ้าหญิงผู้เป็นหัวใจรัก ดังนี้...
โอ้ละหนอ... ดวงเดือนเอย
ข้อยมาเว้า รักเจ้าสาวคำดวง
โอ้ดึกแล้วหนอ ข้อยขอลาล่วง
อกพี่เป็นห่วง รักเจ้าดวงเดือนเอย
ขอลาแล้ว เจ้าแก้วโกสุมภ์
ข้อยนี้รักเจ้าหนอขวัญตาเรียม
จะหาไหนมาเทียม
เจ้าดวงเดือนเอย
หอมกลิ่นเกสร เกสรดอกไม้
หอมกลิ่นคล้ายคล้ายเจ้าสูของเรียมเอย
หอมกลิ่นกรุ่นครัน หอมนั้นยังบ่เลย
เนื้อหอมทรามเชย....เอ๋ย..เราละหนอ
โอ้ละหนอ นวลตาเอย
ข้อยนี้รัก แสนรักดังดวงใจ
โอ้เป็นกรรมต้องจำจากไป
อกอาลัยเจ้าดวงเดือนเอย
เห็นเดือนแรม เริดร้างเวหา
ข้อยเบิ่งดูฟ้า (ละหนอ) เห็นมืดมน
พี่จะทนทุกข์...ทุกข์ทน
เจ้าดวงเดือนเอย
เสียงไก่ขันขาน มันหวานเจื้อยแจ้ว
ช่างหวานสุดแล้ว หวานแจ้วเจื้อยเอย
ถึงจะหวาน เสนาะ หวานเพราะกระไรเลย
บ่เหมือนทรามเชย...เราละหนอ...
บทเพลงที่ประพันธ์ด้วยชีวิต
จิตใจ และวิญญาณ
ความรัก-ความหลัง ทั้งหมดลงในเพลง