ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
เมษายน 19, 2024, 11:08:20 AM

 


  หน้าแรก  • ช่วยเหลือ  • ค้นหา  • เข้าสู่ระบบ  • สมัครสมาชิก



สถานีวิทยุออนไลน์
สายสัมพันธ์





ท่านสามารถขอเพลงฟังได้
ที่กล่องขอเพลงด้านซ้ายมือ
แต่อาจไม่ได้รับฟังทุกเพลง
เนื่องจากจะรองรับเพลงตามขอ
ของสมาชิกภายในก่อน
หน้า: [1]
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ชอบไปหมด - สุเทพ ประยูรพิทักษ์  (อ่าน 4609 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สะบันงา
มีสูง..มีต่ำ..เรื่องธรรมดา..
ปลดออกจากสมาชิก


คำขอบคุณ: 2740
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 885
สมาชิก ID: 1734


Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 24 : Exp 15%
HP: 0%

บนเวทีละครชีวิต ไม่มีใครได้รับแจกบทการแสดงล่วงหน้า


« เมื่อ: มีนาคม 27, 2012, 11:18:49 PM »


ร่วมย้อนวันวานไปกับนักร้อง-เอนเทอร์เทนเนอร์-นักแสดงของผู้ชายอารมณ์ดี ''สุเทพ ประยูรพิทักษ์''



''อาชีพนักดนตรีนักร้องมันเต้นกินรำกิน ผู้ใหญ่ก็ไม่ค่อยสนับสนุน แต่พวกเราก็ต่อสู้กันมา คิดว่าวันหนึ่งต้องเป็นไปได้
และในที่สุดก็เป็นไปได้ วงแรกที่ตั้งก็คือวงเดอะ เปปเปอร์ เป็นวง 3 คน พี่น้อง''


    สุเทพ ประยูรพิทักษ์ นักร้องที่โด่งดังในสมัยก่อนในนามของ ''สุเทพ&The Sak'' ที่มีสมาชิกเป็นพี่น้อง 3 คน
ในครอบครัวประยูรพิทักษ์ โดยวงนี้เริ่มเล่นดนตรีกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 กระทั่งได้ออกเทปในปี พ.ศ. 2527 จนเป็นที่
รู้จักของคนทั่วประเทศ ออกอัลบั้มมาแล้วกว่า 10 ชุด โดยมีเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างเพลง ''หิ่งห้อย'' และ ''ป่าลั่น''

    ก่อนที่จะมาเป็น ''สุเทพ & The Sak'' จากแค่วัยรุ่นชอบเตะฟุตบอลจนกลายมาเป็นนักร้องยอดนิยม
    ''ผมก็เป็นคนกรุงเทพฯ เมื่อตอนเด็กๆ ก็ไม่ได้นึกฝันว่าจะมาเป็นนักร้องนักแสดงอะไรกับเค้า ช่วงวัยรุ่นชอบที่สุด
ก็คือฟุตบอล เคยเล่นฟุตบอลอยู่สโมสรธนาคารกรุงเทพ เป็นฟุตบอลเยาวชนสมัยก่อนเรียกบอลเยาวชนสมัยนี้คงไม่มีแล้ว
จากนั้นชีวิตก็หันเห ตอนนั้นน้องๆ ก็ยังไม่จบ พอเขาเริ่มจะจบปุ๊บเค้าก็ชอบกีตาร์กัน ก็เล่นกีตาร์กัน ตกเย็นเราก็มานั่ง
ริมคลอง นั่งดีดกีตาร์นั่งคุยกัน ร้องเพลงกันไป ร้องดีขึ้น และรู้สึกว่าเข้ากันดี ก็เลยคิดตั้งวงดีกว่า ก็ลองมาตั้งวงดู
ตอนนั้นเค้าก็มีการประกวดโฟล์กซอง มีการประกวดหลายๆ อย่างด้วยกันครับ     


    -ฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อการเป็นนักร้อง แม้ทางบ้านจะมองเป็นเพียงแค่อาชีพเต้นกินรำกิน
    ''สมัยก่อนยังไม่ค่อยมีครับ เค้าถือว่าอาชีพนักดนตรีนักร้องมันเต้นกินรำกิน ผู้ใหญ่ก็ไม่ค่อยสนับสนุน แต่พวกเรา
ก็ต่อสู้กันมาคิดว่าวันหนึ่งต้องเป็นไปได้ และในที่สุดก็เป็นไปได้ วงแรกที่ตั้งก็คือวง เดอะ เปปเปอร์ เป็นวง 3 คน พี่น้อง
และก็รู้สึกว่าเล่นได้สัก 1 ปี ก็เรียกเพื่อนมาช่วยอีก 2 คน ผู้ชายคน ผู้หญิงคน แนวเพลงก็คือ ปีเตอร์พอลแอนด์แมรี่
ตอนนั้นก็โอ้โหทุกคนเริ่มจะรู้จักนะ เพราะว่าเวลาไปเล่นที่ไหนเพลงปีเตอร์พอลแอนด์แมรี่เป็นเพลงต้นตะกูลของโฟล์ค
เลยก็ว่าได้ เพราะที่สหรัฐอเมริกาเค้าดังมาก จะมี 3 คน ปีเตอร์พอลแอนด์แมรี่ 3 คน เดี๋ยวนี้ก็ยังดังอยู่ ยังมีชื่อเสียง
เทปก็ยังขายได้อยู่ เราก็ใช้แนวนี้มาเรื่อย ชื่อวง เดอะ เปปเปอร์ ครับ''
     
    -รับเล่นดนตรีในโรงแรมมากว่า 16 ปี ก่อนที่จะมีผลงานเพลงเป็นของตัวเองอย่างเป็นทางการ
    ''มาเล่นในโรงแรมแมนดารินทีแรกไม่ได้หวังว่าจะเล่นยาว กะว่าเล่นสักพักนึงแล้วจะไปหาที่อื่น พอเล่นไปสถานที่
เค้าก็สร้างดีทำดี ประกอบมีนักร้องอาชีพหลาย คนเดินเข้ามาหาเยอะแยะเป็นสถานที่ที่นักร้องจะมีชื่อเสียงได้เหมือนกัน
ก็เลยอยู่นานหน่อย รู้สึกจะปีพ.ศ. 2526 จนเริ่มปี 2527ได้เริ่มทำเทป จำได้ว่าอยู่มาทั้งหมด 16 ปีครับ จนมาเป็นวง
The Sak นี่นะครับรวมด้วยกันมีทั้งหมด 5 คน มีผมเป็นคนโต คือพี่คนโต สำหรับวง The Sak ที่ยืนพื้นอยู่ก็มี 3 คน
พี่น้อง เริ่มเล่นมาตั้งแต่ปี 2525 เป็นวงสุเทพ & The Sak แล้วมาทำเทปในปี พ.ศ. 2527 จากนั้นก็เล่นยาวมาเลย''   


-เพลงโด่งดังจนถึงทุกวันนี้ของ ''สุเทพ & The Sak'' นั่นคือเพลง ''หิ่งห้อย'' มีที่มาที่ไปอย่างไร
    ''เพลงหิ่งห้อยเนี่ยเป็นเพลงของคุณอาคม ตอนแรกเราก็ไม่คิดหรอกว่าจะดัง แต่พอฟังดนตรีไป เราคิดว่าถ้าร้องเพลง
อย่างเดียวคงไม่ดัง เราก็เลยคิดท่าเต้นขึ้นมา ท่าก้นกระดกนั่นแหละครับที่ทำให้ชาวบ้าน เค้าก็มาเสนอให้ผม ตอนแรก
ผมก็ไม่แน่ใจเลยว่าเพลงนี้จะดัง เพราะว่าเนื้อหามันเป็น ริบ ริบ ริบหรี่ สองแสงยามราตรี...ส่องสีงามจับตา เราก็ฟังดูว่า
มันไม่ค่อยติดหู ท่อนฮุกก็ยังไม่ได้ ต่อมาปรากฏว่าน้องชายเขาก็ทำเรียบเรียงขึ้นมาใหม่ก็ฟังดู ซึ่งเป็นเพลงไทยเพลงเดียว
ที่เป็นจังหวะเกือบอาปาเช่ เป็นเพลงเดียวที่เอาดนตรีสากลเข้ามาใส่ และโดยเฉพาะเนี่ยเป็นอินเดียแดงซึ่งไม่น่าเชื่อว่า
จะเป็นไปได้ แต่นั่นก็ยังไม่พอ ฟังดูแล้วต้องใช้อะไรอีกที่จะทำให้เพลงนี้ประสบความสำเร็จ เราเลยใช้ท่าทางประกอบ
ตอนที่เราซ้อมกันอยู่ ด้วยวิธีการโยกตัว ก็เหมือนหิ่งห้อยที่ใส่ไฟเข้าไปทำนองเนี่ย ท่าเต้นเนี่ยเราก็คิดกันเอง ตอนแรก
ก็ไม่ได้คิด เล่นดนตรีกันธรรมดา แต่มันรู้สึกว่าชักเซ็ง เราทุกคนก็เลยบอกขยับเขยื้อนตัวเองหน่อยนะว่าจะเป็นยังไง
ผมนั่งดูมันก็เออ...มันเข้าจังหวะดี ผมก็ว่าท่าตรงนี้โดนเลยก็เลยเริ่มกันเลยว่าเอาจังหวะก็เลยใช้มาตลอด''

    ''ช่วงนั้นนะผมว่าเป็นโชคของผมมากกว่า เพราะผมก็ไม่นึกว่าจะประสบความสำเร็จ เพลงนี้เนี่ยดังมหากาฬขนาดนี้
ดังไปทั่วประเทศจริงๆ และก็คอนเสิร์ตของผมแต่ละครั้งคนดูก็จะนั่งดูกันหน้าทีวี และเค้าก็ต้องขึ้นซูเปอร์ว่าวันนี้สุเทพ
จะเล่นแล้วนะ เค้าก็จะมานั่งรอดูกัน นี่ก็ลองติดต่อถามใครหลายๆ คนก็บอกว่าที่ชอบก็คือเสียงเพลง ท่าเต้น และก็
การคุยสนุกสนานของผมที่เป็นการเอนเทอร์เทนเนอร์คนดู ก็จะชอบกันเหมือนได้ฟังเพลงและได้ดูตลกไปด้วย
จากนั้นหน้าตาผมก็เหมือนตลกไปเลยครับ''

    -และเพลงต่อมา ''ป่าลั่น'' ก็เป็นเพลงที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน?
    ''สำหรับเพลง ''ป่าลั่น'' นั้นเป็นเพลงของคุณชาตรี อินทรวิจิตร สมัยก่อนอยู่ในภาพยนตร์เรื่องป่าลั่น คุณสุเทพ
วงศ์กำแหง เป็นคนร้องเอาไว้ และก็อยู่ในอัลบั้มสุเทพโชว์ด้วย แต่ว่าตอนหลังผมมาเจอพี่สุเทพที่ร้าน พี่เค้าก็เปิด
ร้านอย่างเนี่ย ผมเองก็มีโอกาสขึ้นไปร้องเพลงพอขึ้นไปร้องปุ๊บพี่เค้าก็พาไปออกรายการช่อง 5 ก็เลยไปออกรายการ
คนก็เริ่มจะติดหูแล้ว เพราะว่าเพลงนี้ไม่ค่อยได้เปิดเท่าไร ถ้าถามความรู้สึกผม ผมว่าเพลงป่าลั่นมีเนื้อหา สาระดีมาก
ฟังแล้วมีการให้กำลังใจกับคนที่ตื่นขึ้นมาแล้วต้องต่อสู้กับอะไรต่างๆ ในชีวิต เมื่ออาทิตย์อุทัยส่องทั่วท้องถิ่นไทย
อะไรอย่างเนี่ย คุนชาลี อินทรวิจิตร แต่งไว้ดีมาก ต้องขอชมเฉย และผมว่าจริงๆ แล้วมันน่าจะเปิดทุกๆ วัน สถานี
น่าจะเปิดทุกๆ วัน มันไม่จำเป็นว่าจะต้องเสียงร้องผม มีหลายคนร้องได้ อยากให้เปิด เพราะว่าเนื้อหาสาระดี ทำให้
คนมีกำลังใจที่จะต่อสู้คนที่กำลังท้อถอยจะได้มีพลังขึ้นมาใหม่ ผมได้ข่าวว่ามีบริษัทหนึ่งก่อนเข้าทำงาน 10โมงเช้า
จะเปิดให้พนักงานฟังก่อนเข้าไปทำงานจะได้หน้าตาแจ่มใสมาก ก็เป็นเพลงที่สนุกมาก''


  สาเหตุอะไรถึงหายไปจากวงการเพลง?
    ''หลังจากนั้นผมก็มาเล่นดนตรีอยู่นานพอสมควรสักปีสองปีเลย มองเห็นว่าดนตรีเราก็ประสบความสำเร็จแล้ว
จะทำไรต่อไป ลองโดดมาเล่นละครดู ก็มาเล่นละครเรื่องแรกเรื่อง สาธร-ดอนเจดีย์ ตอนนั้น คุณคณิต คุณาวุฒิ
เป็นคนชวนเข้ามาเล่นละครก็ถูกปฏิเสธจากผมอีก 3 ครั้ง เหมือนกันเลยแบบเดียวกันเลย คือผมไม่ถนัดทางนี้
ไม่เคยเล่นไม่เคยอะไรเลย แกก็ให้เกียรติมากเลยครั้งที่ 3 เนี่ยแกบอกว่าถ้าไม่เล่นแกก็จะไม่ทำแล้วนะที่เตรียมไว้
อะไรอย่างเนี่ยนะ ผมก็เลยรู้สึกว่าคำพูดของคุนคณิตดูท้าทายนะ เหมือนมั่นใจมากว่าถ้าผมไปคงได้''

    -ทุกวันนี้ของผู้ชายชื่อ ''สุเทพ''
    ''ตอนนี้ผมก็มีงานแสดงและก็ร้านซิกตี้ซิกซ์ (sixty six) อยู่ที่ถนนนครอินทร์ราชพฤกษ์ เป็นร้านที่น้องสาว
กับน้องชายเค้าช่วยกันทำ มีบริการล้างรถเปิด 08.00-19.00 น. ส่วนมากผู้ใหญ่จะมานั่งพักผ่อนกัน กลางวันจะ
เป็นคอฟฟี่บาร์ ตกเย็นก็นั่งทานข้าวพักผ่อนกัน ตอนกลางคืนก็มีดนตรีให้ฟัง แนวเพลงเก่า เพลงสากล โชว์ตั้งแต่
 20.00-12.00 น. ผมเป็นพี่ก็มีหน้าที่สานต่อให้ประสบความสำเร็จ ถ้าอยากจะเจอกันก็เจอได้ทุกวันพฤหัสบดี-
ศุกร์-เสาร์ ซึ่งจะมีแฟนเพลงเก่าๆ สมัยแมนดาริน ผมก็ไม่เชื่อว่าจะมาเยอะขนาดนี้ เพราะตอนแรกเล่นกันธรรมดา
ฟังกันไม่เท่าไร แต่ตอนนี้โอ้โหพฤหัสบดี-ศุกร์-เสาร์ เต็มร้านหมด ต้องจองโต๊ะล่วงหน้า ถ้าสนใจก็ต้องโทร.มา
จองกันก่อน เพราะว่ามันไกล ถ้ามาแล้วไม่เจอหรือไม่มีโต๊ะเดี๋ยวจะเสียอารมณ์ครับ''


ที่มา-http://www.siamdara.com

<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1332856923.swf" target="_blank">http://www.swfcabin.com/swf-files/1332856923.swf</a>

ชอบไปหมด - สุเทพ ประยูรพิทักษ์

   
สมาชิกใหม่ทุกท่าน >>> กดที่นี่

ท่านเป็นเช่นนี้หรือไม่ ?
1 login ... เข้าเวป
2 หาเพลงโหลด
3 มีให้โหลด ตอบเพื่อโหลด ไม่มีให้โหลด ไปข้อ4
4 logout ... ไปดีกว่า
อา-ราย-หว่า ???

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 27, 2012, 11:22:04 PM โดย สะบันงา » บันทึกการเข้า

.. ทุกชีวิตดิ้นรนค้นหาแต่จุดหมาย .... "ใจ"ในร่างกายกลับไม่เจอ ..
 ทุกข์ที่เกิดซ้ำเพราะใจนำพร่ำเพ้อ .. หา"หัวใจ"ให้เจอก็เป็นสุข
หน้า: [1]
 
 
กระโดดไป:  






Saisampan.net
สายสัมพันธ์ - เพลงลูกทุ่งเก่า (เก่ากว่าที่ท่านคิด)
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!