เรื่องราวของกรุงเทพ หรือเมืองบางกอก ที่ถูกบอกเล่าในเพลงลูกทุ่ง

[preem]

<a href="http://saisampan.net/upload/data/flash/ks4f6m-64e784.swf" target="_blank">http://saisampan.net/upload/data/flash/ks4f6m-64e784.swf</a>

[กระต่าย]

เพลง บ้านนอกในกรุง
ขับร้องโดย พุ่มพวง ดวงจันทร์
     
     มองตะวันลับดง
อ่อนสีทองลง จะลับพงพนา
โอ้บ้านไกล เมื่อใกล้สนธยา
ข้าพลางประทับตา ไม่มีมารยามาปน
     ห่างจากเมืองวิไล ค่ำลงมีแสงไฟ
คนนี้จิตใจเหมือนโจร
คนชาวนา ต่างว่าอ่อนโยน
รักจริงทุกคน ไม่ชอบปล้นหัวใจ
     โอ้บ้านนาของฉัน
ถ้าเรารักกัน ไม่เคยให้อาย
ต่างกับหนุ่มแดนวิไล
หลอกลวงทำลาย ละหัวใจแสนโกง
     ฉันเคยไปเมืองกรุง
ก่อนนี้ชุกเหมือนยุง รถยุ่งเต็มถนน
อยู่บ้านนาฉันว่าสุขล้น
จะมีหรือจน ทุกคนมีน้ำใจ...

[กระต่าย]

เพลง สวัสดีบางกอก
ขับร้องโดย อ้อย อัจฉรา
คำร้อง อาจินต์ ปัญจพรรค์
ทำนอง ครูเอื้อ สุนทรสนาน
     
     อย่าไปเลยบางกอก จะบอกให้
พี่เคยไปมาแล้ว น้องแก้วเอ๋ย
จะบอกเจ้าเอาบุญ คนคุ้นเคย
อย่าไปเลยบางกอก ช้ำชอกใจ
     คนที่นั่น คั้นแต่ตัวหัวกะทิ
หัวใจสิแสนบ้า ในหน้าใส
สวมหน้ากาก ปากซื่อเขามือไว
คอยจงใจทำร้าย ทำลายเรา
     อย่าไปเลยบางกอก บอกไม่เชื่อ
อยู่กับเสือ ดีกว่าไปหาเขา
คนบ้านนอกคอกนา ปัญญาเบา
เหมือนนกเหงา พรานซ้ำด้วยชำนาญ
     ควักหัวใจไปกิน จนสิ้นหมด
แล้วปล่อยปลด คืนกายที่ตายด้าน
ขยี้เนื้อเหลือกาย ไว้ประจาน
ต้องซมซาน กลับรังตายทั้งเป็น...
 

[กระต่าย]

เพลง อย่าเกลียดบางกอก 
ขับร้องโดย ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์      
คำร้อง อาจินต์ ปัญจพรรค์
ทำนอง ครูเอื้อ สุนทรสนาน  
 
     แม่คุณเอ๋ย บางกอกหรือหลอกเจ้า
ส่วนที่เขาคนดี ก็มีถม
เจ้าไปคุ้นคนพาลมารสังคม
ไม่อบรมในหมู่ของผู้ดี
     หลงทางผิด คิดประณามหยามทั่วเมือง
ขนเอาเรื่องแสนบ้า มาเสียดสี
ร้องบางกอก หลอกพร่าผลาญนารี
เผยวิธีทำร้ายทำลายคน
     ไม่ใช่พราน ดังว่าอย่าไปเชื่อ
ไม่ใช่เสือ คอยคร่าอย่าฉงน
หัวใจซิแสนซื่อ ไม่มือซน
ไม่โกงคนโกงคำ ไม่ทำใคร
     ควักหัวใจไปกรอง ทดลองสิ
หาตำหนิ ตรงไหนก็ไม่ได้
หากเจ้าพบพี่ก่อน ถูกหลอนใจ
คงไม่ไปไกลบางกอก ดอกแม่คุณ..
.

[กระต่าย]

เพลง ฉันรักลูกกรุง
นักร้อง สายัณห์ สัญญา

     ฉันรักเมืองกรุง รุ่งเรืองเสมือนเมืองแมน
ฉันรักดินแดน ที่มีตึกงามสง่า
ฉันรักถนนหนทางทุกย่าน
สะพานสวยล้ำ ข้ามเจ้าพระยา
ผู้คนโสภา รถราก็มากมาย
     ฉันรักราตรี ที่มีแต่แสงนีออน
รักหนังละครทีวี ที่หาชมง่าย
รักวิทยุมีฟังเสียอิ่ม
อีกหนังสือพิมพ์ให้อ่านมากมาย
เมืองหลวงสบาย คล้ายสวรรค์
     รักเสียงเครื่องยนต์ ที่ก้องกังวานทั้งวันทั้งคืน
เหมือนคนที่ตื่น เคลื่อนไหวทั้งวัน
รักแสงชวาลา ประปาไหลหลั่ง
รักทั้งเวียงวัง วัดวาลดหลั่น
รักมั่นเหนือเกล้า เจ้าเหนือดวงใจ
     ฉันรักเมืองกรุง รุ่งเรืองเสมือนเมืองพรหม
ฉันรักนิยม สมเป็นเมืองหลวงยิ่งใหญ่
และฉันก็รักลูกกรุงทุกท่าน
ผู้มุ่งสร้างสรรค์ ประเทศชาติไทย
ให้รุดหน้าไปทุกประการ...
 

[กระต่าย]

เพลง หลงกรุง
ขับร้องโดย ก้าน แก้วสุพรรณ
คำร้อง ต่อชัย ภู่ชมพู

     ลืมแล้วแก้วตา ไหนว่าจะรักพี่ไม่มีลืมได้
ใยน้องเปลี่ยนใจง่ายร้ายเร็วจริง
จากพี่ไป น้องได้อยู่กรุงเลยทิ้ง
ท้องนากระต๊อบเคยอิง อุ่นล้ำแดนกำเหนิดมา
     ยามนี้เจ้าคงหลงใจระเริงรื่น ในคืนเมืองทอง
ไม่คิดกลับมองเหยียบท้องทุ่งนา
เพลิดเพลินใจ คลั่งไคล้ต่อสิ่งนานา
ล้วนเป็นเครื่องหลอนลวงตา ล่อพาวิญญารื่นรมย์
     บ้านนาหนองบึง ซึ่งมีแต่ดินโคลน
ไม่มีหนังโขนละครให้ชม
น้องเอ๋ยเมื่อยามมีเงินสุขสม
ได้ตามอารมย์ ยามรวยแม้นจนอย่าหมาย
     อย่าเห็นแก่รถเก๋งสวย ด้วยความโก้นั่งโชว์กินลม
พลาดพลั้งอกตรม ขื่นขมจนตาย
กลับเถิดหนา ท้องนาถิ่นเก่าเกิดกาย
น้องเอยอย่าหลงงมงาย หน่ายพี่ที่คอยอยูนา...
 

[Kengnol]

เพลง้เกี่ยวกับกรุงเทพ น่าจะประมาณ 20 - 30 เพลง  แต่ที่ดังๆ ก็มาก เหมือนของป้าผ่องศรี ก็เป็นเพลงหายาก(เมื่อก่อน) เพลง กรุงเทพ  ที่ครูสุรพลแต่งไว้

[กระต่าย]

เพลง ลูกทุ่งเลือดสุพรรณ
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง พยงค์ มุกดา

     เอ้ามาด้วยกัน เอ้าไปด้วยกัน
เลือดสุพรรณ ของเรานี่เอย มาบางกอกเพียงไม่กี่วัน
(เอ้ามาบางกอกเพียงไม่กี่วัน กลับสุพรรณของเราเถิดเอย)
     เที่ยวบางกอก อย่าบอกใคร มันสนุกถึงใจ จริงนะเพื่อนเอย
(เที่ยวบางกอกอย่าบอกใคร มันสนุกถึงใจจริงนะเพื่อนเอย)
นั่งรถไฟไม่กี่ชั่วโมง ก็ถึงหัวลำโพงละสเบยสเบย
     อยากเดินชมบางกอก มีคนเขาบอกว่าอย่ามัวแหงนเงย
(อยากเดินชมบางกอก มีคนเขาบอกว่าอย่ามัวแหงนเงย)
รถยนตร์มันชุมยิ่งกว่ายุง ถ้ามัวแหงนชมกรุง เดี๋ยวจะตุ่งเท่งเลย
     ข้ามถนนให้จำไว้ ข้ามตรงทางม้าลาย ข้ามได้ละสเบย
(ข้ามถนนละให้จำไว้ ข้ามตรงทางม้าลาย ข้ามได้สเบย)
ไอ้เราเดินหาแทบจะตาย ไม่ยักกะเจอม้าลายละซักตัวเลย
     เห็นแต่ป้อมไฟเขียวเหลืองแดง มีตั้งหลายแห่งฟุ่มเฟือยจริงเวย
(เห็นแต่ป้อมไฟเขียวเหลืองแดง มีตั้งหลายแห่งฟุ่มเฟือยจริงเวย)
ขอแบ่งสักครึ่งให้สุพรรณ ทุ่งนาบ้านฉันคงสว่างจังเลย
     ที่วิทยุท.ท.ท. ตั้งใจแล้วหนอจะไปขอชมเชย
(ที่วิทยุท.ท.ท.ตั้งใจแล้วหนอจะไปขอชมเชย)
อยู่สี่แยกคอกวัว จะไปขอดูตัวโฆษกหน่อยเอย
     ถนนราชดำเนิน ผมเดินเดิ้นเดินก้มก้มเงยเงย
(ถนนราชดำเนิน ผมเดินเดินเดินก้มก้มเงยเงย)
เดินหาจนปวดหัว ไม่ยักกะมีคอกวัวละที่ไหนเลย
     เดินไปตั้งหลายแห่ง เมื่อยล้าอ่อนแรงเสียจนเหลือเอย
(เดินไปตั้งหลายแห่ง เมื่อยล้าอ่อนแรง เสียจนเหลือเอย)
เขาว่าบางกอกมีของดี อาบนวดแต่ละทีก็สเบยสเบย
     จึงเรียกแท๊กซี่ บอกให้พาไปที่หมอนวดชั้นเต้ย
(จึงเรียกแท๊กซี่ บอกให้พาไปที่หมอนวดชั้นเต้ย)
รถมันวิ่งซะเร็วจี๊ ตอนเบรคแต่ละทีตกเบาะลงไปเลย
     ถึงสถานร้านหมอนวด ไอ้ที่เคยเจ็บปวดคงจะสเบย
(ถึงสถานร้านหมอนวด ไอ้ที่เคยเจ็บปวดคงจะสเบย)
หมอบางกอกจะบอกให้ด้วย สาวสาวสวยสวยก็ทั้งนั้นเลย
     หมอพาไปอาบน้ำร้อน เปลื้องผ้าเปลื้องผ่อน ลงแช่ก็สเบย
(หมอพาไปอาบน้ำร้อน เปลื้องผ้าเปลื้องผ่อนลงแช่สเบย)
หมอสาวเข้ามาจะถูขี้ไคล้ เล่นเอาผมตกใจ เพราะไม่เคยไม่เคย
     ห้ามหมอก็ไม่ฟัง กลับมานั่งร่วมอ่าง ในชุดเปิดเผย
(ห้ามหมอก็ไม่ฟัง กลับมานั่งร่วมอ่าง ในชุดเปิดเผย)
ผมตกใจจริงวิ่งออกมา อุ๊ยตายเสื้อผ้า ยังไม่ได้นุ่งเลย
     เอ้ามาด้วยกัน เอ้าไปด้วยกัน เลือดสุพรรรณของเรานี่เอย
มาบางกอกเพียงไม่กี่วัน มาบางกอกเพียงไม่กี่วัน
เอ้ากลับสุพรรณของเราเถิดเอย ....
 

[กระต่าย]

เพลง สนามหลวง
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ

     สนามหลวง สนามหลวง
สนามหลวง ดีทุกอย่าง ถ้าใครหลงทางไปไม่ได้
ก็มาตั้งต้นใหม่ ท้องสนามหลวง
สนามหลวง สนามหลวง หนาวร้อนไม่ต้องห่วง
พักผ่อนให้เย็นทรวง หาที่ไหนไม่มีสู้
ถ้าใครขาดคู่ ก็มีหมอดูใต้ต้นมะขามนั่นยังไง
     สนามหลวง มันเป็นบ่วงสลัก
ทุกคนย่อมรู้จัก เพราะได้ความรักใคร่
ทุ่งสนามหลวง ที่แสนโตใหญ่
เคยได้ชื่นฉ่ำใจ กันทุกครา กับแม่ยอดกัลยาจำได้ไหม
     สนามหลวง เป็นบ่วงสวาท
เดี๋ยวนี้พี่มาขาด สายสวาทหม่นไหม้
ใต้ต้นมะขาม พี่จำความได้
เคยได้ชื่นฉ่ำใจ กันทุกวัน
มาทิ้งพี่ ละให้เฝ้าโศกศัลย์
เมาเหล้าทุกวัน แย่ไม่ไหว
     สนามหลวง เดี๋ยวนี้มีแต่เศร้า
พี่เลยมานอนดูเขาชักว่าว กินเหล้าแก้เหงาปลอบหัวใจ
แม่อยู่ที่ไหนแม่คุณจงมา พี่เศร้าหนักหนาแทบทนไม่ไหว
พี่หมดตัวแล้วเพราะกินเหล้าใหญ่ มาช่วยปลอบใจให้พี่ที
     สนามหลวง ลวงพี่แทบม่อง
เพราะเคยได้เผากล้อง เผาตะเกียงปล่องดวงใจพี่
เมื่อเผาไปแล้วก็ยิ่งพับผี่
ทำไมยังงี้นะน้องยา พี่ก็ต้องมานอนสูบอยู่เลยไป
     ใหม่ๆพี่ละก็ว่าไม่ดี แต่มาเดี๋ยวนี้ยกมือท่วมหัว
มารู้ตัว แล้วก็เลิกฝิ่นได้
พี่เลิกฝิ่นแล้ว ร่างกายพี่ผ่องใส
โรงงานปิดแล้ว พี่ก็ไม่เสียใจ
แต่มาร้องไห้ เมื่อขาดน้องยาของพี่เอย
..กลับมาหาพี่เถิดทูนหัว พี่ยังรออยู่ใต้ต้นมะขาม
ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลงหรอก แม่ยอดกัลยาเอ๋ย...
                             

[กระต่าย]

เพลง น้ำตาพ่อตก
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ

     นี่หรือกรุงเทพ นครเทวา
ที่ข้าส่งลูกมาศึกษา เพื่อหาวิชาไว้ใส่ตัว
นี่หรือเมืองหลวง ทำไมมันลวงลูกชายข้าชั่ว
มันลืมกลิ่นโคลนสาปควายสาปงัว ลืมทั้งพ่อตัวที่อุ้มมันมา
     พ่อหรืออุตส่าห์ ยอมทรมาน
สู้ตะเกียกตะกายปีนตาล เพื่อหวังน้ำหวานให้ได้มา
เคี่ยวตาลไปขาย เอาเงินกำไรส่งมาหวังว่า
ลูกคงจะเรียนท่องดูตำรา ยากจนไม่ว่าขอให้ลูกดี
     พ่อปีนต้นตาลทุกวัน หัวใจพ่อฝันไปว่า
ลูกพ่อเป็นนักศึกษา คงได้ปริญญาปีนี้
จดหมายเจ้ามีไปถึงพ่อ ว่าเงินไม่พอใช้จ่าย
พ่อต้องขายงัวขายควาย ส่งเงินมาให้ทุกที
เลิกทำนาไร่ไถหว่าน มาปีนต้นตาลดีกว่า
ถึงต้นตาลสูงเสียบฟ้า แหงนคอตั้งบ่าไม่มี
เหงื่อไหลไคลย้อย พ่อยอมทุกข์กายผ่ายผอมพ่อทน
ขึ้นชื่อว่าพ่อทุกคน ลำบากเพื่อลูกยอมพลี
ลูกเอ๋ยมาเป็นไปได้ พอพบกลิ่นไอเมืองหลวง
เลยหลงเข้าบ่วงสวาท ชีวิตผิดพลาดคราวนี้
พ่อคิดถึงเจ้าพ่อจึงมาหา โอ้อนิจจาใจหาย
กลับเห็นพ่อเป็นงัวควาย เพียงเพราะเจ้าอายนารี
คิดแล้วน้ำตาพ่อตกใน เหมือนถูกเขาไล่ทุบตี
เพราะลูกทรพี มาคิดเนรคุณ
     เด็กเอ๋ย จงอย่าจดจำเอาไป
นี่แหละคือบทเรียนเลวไซร้ นรกจะกินจนสิ้นบุญ
พ่อเปรียบดังพระ ลูกยังเลวทรามประณามเสียวุ่น
ลืมคุณพ่อเคยโอบเอื้อเจือจุน คิดเนรคุณเขาว่า..คนเลว...
 

[กระต่าย]

เพลง หนักใจ
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล+พยงค์ มุกดา

    หนักใจจริง ๆ
คุณผู้หญิง คุณผู้หญิง สมัยใหม่
ตั้งแต่ผมยั่วเย้าเรื่องขาลาย (ตั้งแต่ผม ยั่วเย้าเรื่องขาลาย)
เลยหันมาใส่ ถุงไนล่อนกันหมดเลย
     ถุงไนล่อน กับชุดมินิสเกิร์ต
ก็งามล้ำเลิศ ดีหรอกนะเธอเอ๋ย  
น่องสวยๆก็พอดู(เอ้าน่องสวยๆก็พอดู)
แต่บางคนน่องทู่ ไม่เอาไหนเลย
     หนักใจนงนุช
ตอนปิดสะพานพุทธ เพราะชำรุดหนักเหลือ
บ้างก็เดิน บ้างก็ลงข้ามเรือ(บ้างก็เดิน บ้างก็ลงข้ามเรือ)
สงสารยิ่งเหลือ เมื่อได้เห็นทรามเชย
     ตอนขึ้นลง ท่าเรือแต่ละที
นุ่งสั้นแบบนี้ แสนลำบากจังเลย
ก้าวขึ้นโป๊ะ มันสูงล้ำ (เอ้าก้าวขึ้นโป๊ะ มันสูงล้ำ)
พวกหนุ่มๆหัวคะมำ บ้างตกน้ำลงไปเลย
(โอ๊ยแม่เจ้าเดินหยังวะ น่าตกน้ำไปเลย)
(ฮ่วยมันซวยหลายแท้น้อ)
     หนักใจจริงสาว
แฟชั่นถุงเท้า ผมต้องขอเตือนหน่อย
อย่างดีๆ คู่หนึ่งนี้ก็ต้องร้อย (อย่างดีๆ คู่หนึ่งนี้ก็ต้องร้อย)
ขาดวิ่นด่างพร้อย ก็ต้องทิ้งไปเลย
     ถุงไนล่อน ของเธอหนึ่งข้าง
ข้าวสารหนึ่งถัง เชียวนะเธอเอ๋ย
ประหยัดเงิน ไว้เถิดตาหวาน (ประหยัดเงิน ไว้เถิดตาหวาน)
ส่งไปช่วยทหาร ที่เมืองน่านบ้างเอย...
 

[กระต่าย]

เพลง หัวอกจราจร
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ

     เช้าขึ้น ตะวันส่อง
ถึงฝนจะตกฟ้าร้อง จะมีน้ำนองถนน
จราจร นั้นก็ต้องสู้ทน
เพื่อรับใช้ประชาชน เกี่ยวกับยานยนต์ทุกคัน
     กระนั้น ไม่วายจะโดนด่า
ต่างต่างนานา หาว่ายิวสะบั้น
โปรดจงเห็นใจกัน
เพราะมีหน้าที่อย่างนั้น หากขืนรั้นก็ติดตะราง
     รถคันซ้ายไหงวิ่งกินขวา
รถคันหน้า ช้าลงนิดหน่อย
รถคันหลัง ที่มาหยุดคอย
ขอจงค่อยค่อย วิ่งให้ถูกทาง
     อ้าวคันโน้น อย่าเพิ่งวิ่งมา
ดูสัญญาณ แน่ชัดหรือยัง
นั่นเครื่องเสีย เลยเกะกะทาง
จราจร ก็ยังช่วยเข็นให้
     ปวดใจเหลือข่ม
แทบเป็นลม สิ้นใจตาย
ขอจงเห็นใจ
เพราะงานไม่ง่าย ดังใครคิดกัน
     ไหนหน้าที่ จะบังคับ
ถ้าจับมาก โดนว่าสารพัน
ถ้าหากคุณ เป็นจราจรอย่างฉัน
อย่างช้าสามวัน คุณต้องกลั้นใจตาย...
 

[กระต่าย]

เพลง กุมกัณฑ์ลับหอก
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ

     กุมกัณฑ์ นั่นก็คือชื่อยักษ์
เราย่อมรู้จัก ยักษ์ในลงกา
จะลับหอก ออกเดินเที่ยวหา
ทั่วทั้งลงกา จะหาหินก็ไม่มี
     ได้ยินฟังวิทยุเขาบอก
ว่าหินที่ในบางกอก นั้นมากมายเหลือดี
กุมภกัณฑ์ คิดฝันเต็มที่
รบกันค่ำคืนนี้ ยักษ์ต้องมีโชคชัย
     หวังจะรบศรัตรูให้คว่ำ
จะฆ่าพระราม และพระลักษณ์ให้ตักษัย
แม้นลับหอก แล้วจะออกชิงชัย
ช่างโชคดีเหลือใจ แล้วรีบไปเร็วพลัน
***หาซื้อหิน ขนาดเล็กขนาดใหญ่
ค่อยเดินไปเลือกไป ตั้งมากมายหลายร้าน
ราคาช่างถูก เสียจริงๆเชียวนั่น
ล้วนแต่ร่างต่างกัน หินนั้นมีมากมาย
     พอซื้อหินแล้ว กุมภกัณฑ์ก็ลับหอก
ค่อยขยับกลับกลอก ลับหอกมีลวดลาย
หอกช่างคม สมดั่งใจหมาย
ขยับแทงขวาซ้าย ใกล้ไกลนั่งแหละนอน
     เหวยเหวย พระรามพระลักษณ์
จะต้องหอกโมกขศักดิ์ ยักษ์ลงม้วยมรณ์
แต่คืนนี้ เรี่ยวแรงเรายังอ่อน
ต้องถือหอกกลับไปนอน ยังนครลงกา...
 

[กระต่าย]

เพลง ผ่าไฟแดง
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ

     ก้าวหน้า เสียจริงเมืองไทย
มองทางไหน เหมือนดังเมืองสวรรค์
ตึกและบ้านสวยหรู มองดูเป็นเชิงช่อชั้น
โรงหนังโรงละคร แลสลอนเรียงกัน
นี่แหละเมืองสวรรค์ ของกรุงเทพราตรี
     โน่นแน่ะ จราจรหญิง
แต่งตัวสวยพริ้ง งามดี
อยู่บ้าน เธอเป็นแม่ศรีเรือน
ออกจากบ้าน เธอเหมือนชายชาตรี
แต่งตัวรัดกุม ทะมัดทะแมงสวยดี
รถเมล์รถแท๊กซี่ ยังต้องเหลือบแลมอง
***พี่เจอะ พี่ก็ยังงวยงง
บอกตรงๆ ว่าพี่อยากขอร้อง
หากพี่ผิดวันไหน โปรดอภัยให้พี่บ้างเถิดน้อง
อย่าจับนักเลย แม่คุณเอ๋ยควรตรอง
เพราะใบสั่งของน้อง มันทำให้พี่เสียเงิน
     น่ารัก เสียจริงน้องสาว
เห็นเจ้า แล้วพี่ต้องมองเพลิน
หุ่นเจ้าคมขำดี ทำหน้าที่แหมน่าสรรเสริญ
ขี่มอร์เตอร์ไซด์ ดูวิไลเหลือเกิน
เล่นเอาพี่มองเพลิน จนวิ่งผ่าไฟแดง...
 

[กระต่าย]

เพลง บาบูฝันหวาน
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ

***บาบู แสนสุขกระไร
สร้างวิมานในหัวใจ แล้วคงได้มีหวัง
ถ้าขายนม ร่ำรวยสตางค์
จะซื้อตึกสักหลัง ซื้อรถกุดังสักหนึ่งคัน
     ต่อไป ก็จะหาลูกเมีย
อาไว้คลอเคลีย กันให้สุขสำราญ
บังคิดมานาน แสนนาน
พอรถม้าวิ่งผ่าน ถึงปทุมวันพอดี
     สี่แยก รถหยุดไฟแดง
ม้าอาบังวิ่งแซง จะรีบวิ่งไปให้ถึงที่
บาบูตกกะใจสิ้นดี พอชักม้าด่าอึงมี่ เฮ้...ไฟแดง ไฟแดง ไฟแดง
     ตำรวจ รักษาจราจร
โบกมือรำละคร วิ่งออกมาชี้แจง
นั่นบาบู ทำไมไม่ดูสัญญาณแดง
แล้วก็ยังขืนแซง ต้องปรับให้แพงถึงใจ
     ไฟหลวง อาบังรู้น่ะผู้หมู่
ฉันนี้หยุดม้าไม่อยู่ แล้วนี่จะทำอย่างไง
บาบู แทบจะกลุ้มใจตาย
เฮ้...สะลามนะนาย จะปรับเท่าไรราคา...